Blockchain

ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศก้าวผ่านการทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นที่เรียบร้อย

Photo 1596884942125 291ece7e4e19.jpg

ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ Bank for International Settlements (BIS) ร่วมมือกับธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในการสำรวจประโยชน์ของการใช้ CBDC เพื่อไม่ให้พลาดผลประโยชน์ที่เกิดจากการนำ Blockchain มาสนับสนุนระบบการเงิน

ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ Bank for International Settlements(BIS) และธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ กำลังลุยสำรวจประโยชน์ของการใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain

จากการประกาศเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ทาง BIS Innovation Hub Swiss Center หรือ BISIH ประสบความสำเร็จในการทดสอบการใช้งานสองโปรแกรมที่คอยเชื่อมโยงระบบการชำระเงินที่มีอยู่ กับ Distributed ledger และการชำระสินทรัพย์ที่เป็นโทเค็นด้วย CBDC แบบWholesale

*CBDC นั้นถูกแบ่งเป็นสองประเภทคือ Wholesale หรือสกุลเงินที่ใช้เฉพาะธนาคาร และสถาบันการเงินที่ต้องทำธุรกรรมกันเองหรือทำธุรกรรมกับธนาคารกลาง และแบบที่สองก็คือคือ Retail หรือผู้ใช้งานทั่วไปที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

การก้าวครั้งสำคัญของสวิตเซอร์แลนด์

โปรเจคที่ถูกเรียกขานกันในชื่อ “Project Helvetia” เป็นการริเริ่มครั้งใหม่จากการร่วมทุนของ BISIH, ธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ หรือ Swiss National Bank (SNB) และ Six Group ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์

โดยผู้ให้บริการการแลกเปลี่ยนระบุว่า Project Helvetia ได้สำรวจความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยี และกฎหมาย ในการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านการออก CBDC แบบWholesale ไปยังแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลแบบDistributed ของ Six ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Six Digital Exchange โดยแพลตฟอร์มใหม่ข้างต้นนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยนำเสนอการออกคำสั่ง, การซื้อขาย, การชำระเงิน, การจัดการ และการดูแลทรัพย์สินที่เป็นโทเค็น

แม้ “Project Helvetia” จะทดสอบชำระสินทรัพย์ที่เป็นโทเค็นด้วย CBDC แบบWholesale ก็ตาม แต่ทางสถาบันการเงินก็ออกมาระบุบว่า เรายังไม่ควรด่วนสรุป และตีความการทดลองนี้เป็นการบ่งชี้ว่าธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์จะออก CBDC แบบWholesale อย่างเดียวเท่านั้น

Andréa Maechler สมาชิกของคณะกรรมการกำกับของ SNB ย้ำว่าธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ต้องการพลาดโอกาสในการปรับปรุงระบบการเงินด้วยเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่

“ไม่ว่าเทคโนโลยีใดก็ตามที่ตลาดการเงินจะเลือกมาใช้อนาคต เรื่องของความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของสวิตเซอร์แลนด์จะต้องได้รับการรักษาไว้ หาก [Distributed ledger technology] สามารถปรับปรุงการซื้อขายหลักทรัพย์ และการชำระราคาหลักทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ SNB ก็จะเตรียมตัวให้พร้อมรับมือ”

แม้ว่า Project Helvetia จะแสดงให้เห็นว่า DLT มีศักยภาพที่จะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในอนาคตของระบบการเงิน และ CBDC แต่ก็ยังไม่มีความเห็นที่ชัดเจนว่า เทคโนโลยีนี้จำเป็นสำหรับการเปิดตัว CBDC หรือไม่ โดยในเดือนกันยายน ปี 2020 ที่ผ่านมานี้ ผู้บริหารของ SNB และ Deutsche Bundesbank ดูเหมือนจะยอมรับว่าโครงการ CBDC แบบ Retail ทั่วโลกไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีBlockchain

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง