SushiSwap โตกระจายในขณะที่ Uniswap ร่วง
SushiSwap นั้นเข้าถึงมูลค่าเงินที่ถูกล็อคกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในขณะที่เราพบเห็นความตกต่ำอย่างมากของ Uniswap หลังจากรางวัลที่ได้จาก Liquidity Mining นั้นสิ้นสุดลง
SushiSwap นั้นเข้าถึงมูลค่าเงินที่ถูกล็อคกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในขณะที่เราพบเห็นความตกต่ำอย่างมากของ Uniswap หลังจากรางวัลที่ได้จาก Liquidity Mining นั้นสิ้นสุดลง
โทเค็น SUSHI ของ SushiSwap ได้รับการตอบสนองอย่างมากในสัปดาห์นี้โดยพุ่งขึ้นเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ด้วยระยะเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ และทำให้โทเค็น SushiSwap นั้นทำการซื้อขายอยู่ที่ 1.30 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยราคาที่พุ่งสูงขึ้นของ SUSHI อาจเป็นผลมาจากโครงการสร้างแรงจูงใจใหม่ของ SushiSwap ซึ่ง Uniswap ก็เคยทำในรูปแบบเดียวกันไปแล้วในก่อนหน้านี้
ความผิดพลาดที่ร้ายแรงที่สุดของ Uniswap
ขณะที่โทเค็น SUSHI ของ SushiSwap กำลังพุ่งสูงขึ้น นั่นก็ทำให้มูลค่ารวมที่ถูกล็อค (Total Value Locked - TVL) ใน DeFi ได้เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าจากเดิม และได้ทะลุ 1พันล้านดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย โดยนั่นทำให้ SushiSwap นั้นถือเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ (AMM) ที่ได้รับประโยชน์จาก TVL ของ Uniswap เนื่องจากการทำ Liquidity Mining ภายในการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจรายนี้ได้สิ้นสุดผลตอบแทนในวันที่ 17 พฤศจิกายน
ในวันที่รางวัลของ Uniswap สิ้นสุดลง มูลค่ารวมของ Uniswap ที่ถูกล็อกก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง โดยเสียหายมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ซึ่งถือเป็นฝันร้ายที่ใครหลาย ๆ คนไม่คาดคิด เพราะก่อนหน้านั้น Uniswap ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่กี่วันโดยแตะ TVL ที่มูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์
ไม่ใช่แค่ SushiSwap ที่สามารถกอบโกยผลประโยชน์
TVL ของ SushiSwap ได้เพิ่มขึ้นกว่า 150เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่วันที่รางวัลของ Uniswap สิ้นสุดลง และมูลค่าของมันก็อยู่เหนือ 1 พันล้านดอลลาร์ในขณะที่เขียนบทความนี้ อย่างไรก็ตาม SushiSwap ไม่ใช่การแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจเพียงผู้เดียวที่จะได้รับประโยชน์จากเหล่านักขุด Liquidity Mining ของ Uniswap เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ก็มีส่วนช่วยให้ Bancor การแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจอีกแห่งได้เปิดตัวโครงการ Liquidity Mining ซึ่งรวมถึงผลตอบแทนย้อนหลังในวันที่ 17 พฤศจิกายน
จากวันที่ฝันสลาย สู่มูลค่าทลายเพดาน
จากรายงานของ Santiment บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านคริปโต ระบุว่าราคาของ SUSHI เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในสัปดาห์นี้แม้ว่าในอดีตเมื่อที่ราคาของ SUSHI พุ่งสูงขึ้นเชฟ Nomi ผู้ก่อตั้งก็ตัดสินใจขายโทเค็น SUSHI ของเขาเพื่อให้ได้ Ethereum มาตอบแทน และเรียกมันว่า “Exit Scam”
“$ SUSHI เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในสัปดาห์นี้ และเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจหลังจากที่ผู้ก่อตั้งเพียงฝ่ายเดียวขายเงินทุนสำหรับนักพัฒนาโครงการมูลค่า 27 ล้านเหรียญในช่วงต้นเดือนกันยายน จำนวนเงินฝาก #SushiSwap รายวัน (ที่อยู่ที่ใช้ในการย้าย SUSHI ไปยัง Exchange) เพิ่มสูงขึ้นในรอบ 2 เดือน ยิ่งไปกว่านั้นการไหลเข้าของการแลกเปลี่ยนก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเช่นเดียวกัน”
