จะเกิดอะไรขึ้นกับ Stablecoin หากระบบการธนาคารล่ม
หนึ่งในประเด็นคำถามน่าสนใจในวงการคริปโตถูกยกขึ้นมาตีแผ่ ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจมีทางรอดหากรัฐฯช่วยอุ้ม แต่ตลาดไม่เห็นด้วย

หนึ่งในประเด็นคำถามน่าสนใจในวงการคริปโตถูกยกขึ้นมาตีแผ่ ผู้เชี่ยวชาญชี้อาจมีทางรอดหากรัฐฯช่วยอุ้ม แต่ตลาดไม่เห็นด้วย
คำถามที่ดังกล่าวนั้นอยู่ในวงการคริปโตมานับตั้งแต่ที่ Stablecoin เริ่มเข้ามามีบทบาท เนื่องจากก่อนหน้านี้Stablecoin ส่วนใหญ่อย่างเช่น USDT, USDC หรือ Paxos มักจะตรึงมูลค่าของเหรียญ Stablecoin ของตัวเองไว้ด้วยทรัพย์สินที่จับต้องได้ (Tangible Assets) อย่างเช่นสกุลเงินระหว่างประเทศ ทองคำ หรือพันธบัตรรัฐบาลของประเทศนั้นๆ เป็นต้น ซึ่งทำให้ Stablecoin ในที่นี้ไม่ใช่แค่เป็นสกุลเงินคริปโตที่มีมูลค่าต่อเงินสกุลปกติอย่างดอลลาร์เท่านั้น แต่เป็นเสมือนตัวกลางที่เชื่อมต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้าการระบบการเงินบนโลกดิจิทัลนั่นเอง
ประเด็นจากนาย Willy Woo
ล่าสุดนั้นคำถามได้ถูกยกขึ้นมาพูดคุยอย่างจริงจังโดยนาย Willy Woo ผู้คร่ำหวอดในวงการคริปโต ถึงกรณีสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปกับสกุลเงินคริปโตแบบ Stablecoin ที่ผูกมูลค่าไว้กับสกุลเงินระหว่างประเทศ หากเกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นกับระบบการเงินและการธนาคารทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบกับเงินสำรองของเหรียญ Stablecoin เหล่านี้ โดยตัวนาย Woo ได้ยิงคำถามนี้แก่ที่ปรึกษาของแพลตฟอร์ม Compound ที่โด่งดังในวงการ DeFi เลยทีเดียว
Question for @jchervinsky, in the case of a banking failure and bail-ins start to take effect, what do you think will happen to regulated and backed stablecoins such as USDC or PAX?
— Willy Woo (@woonomic) September 28, 2020
Does the money that's backing it get bailed-in or is their special dynamics at play here?
คำตอบที่เป็นไปได้
คำตอบจากนาย Jake Chervinsky ที่ปรึกษาของทาง Compound ให้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยตัวเขามองว่ารัฐบาลนั้นจะเข้ามาอุ้มปริมาณเงินที่เสียหายไปอย่างเช่นที่เกิดขึ้นในช่วงวิกกฤติการณ์ต่างๆ พร้อมกับเงินซึ่งเป็นเงินฝากของประชาชน อีกทั้งยังไม่ต้องการฟังชั่นฉุกเฉินของเหรียญอย่าง Sepcial Dynamics นั่นเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นคำตอบที่อยู่บทฐานที่ว่ารัฐบาลยังคงดำเนินการอยู่ได้อย่างปกติแม้ว่าระบบการเงินและการธนาคารล่มไปก่อนแล้ว (ซึ่งอาจมีกรณีที่รัฐบาลประสบปัญหาพร้อมๆกับระบบการเงิน รวมถึงกรณีอื่นๆอีกด้วยนั่นเอง)
1/ Great question.
— Jake Chervinsky (@jchervinsky) September 28, 2020
The short answer (not legal advice) is the money probably gets bailed-in just like other deposits at the failed bank & no special dynamics protect stablecoin holders, afaik.
The longer answer requires looking at the relationships between all the parties . . . https://t.co/SGqbhLeLgr
รัฐบาลเชื่อถือได้จริงหรือ ?
อย่างไรก็ตาม คำตอบดังกล่าวยังคงเป็นที่น่าสงสัยเนื่องจากปัญหาทางด้านความน่าเชื่อถือของกระทรวงการคลังสหรัฐฯเองนั้น ต่างกำลังประสบปัญหาของการควบคุมปริมาณเงินภายในระบบจากการพิมพ์เงินออกมาโดยขาดดุลรัฐฯอีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นมีมากกว่าแค่การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อแน่นอน อีกทั้งเมื่อทางรัฐบาลสหรัฐฯอนุญาติให้ธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ในประเทศเก็บสำรองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Stablecoin ได้
Well this is why US regulators said stablecoins must be 1 to 1 backed. But Christine Legarde thought that posed a bigger risk of bank runs. These are strange people... https://t.co/NUB3jml8HE
— Alex Saunders 🇦🇺👨🔬 (@AlexSaundersAU) September 28, 2020
ความคิดเห็นส่วนใหญ่
นอกจากความเห็นของ Jake แล้ว ความคิดเห็นส่วนใหญ่ของผู้คนในวงการคริปโตผ่าน Twitter นั้นมีที่ท่าไม่เชื่อถือการดำเนินการของภาครัฐฯที่จะเข้ามาช่วยเหลือประเด็นปัญหาดังกล่าวมากนัก อีกทั้งการดำเนินการของผู้ให้บริการ Stablecoin โดยเฉพาะ Tether ซึ่งมีข่าวการเผาเหรียญและสร้างเหรียญขึ้นมาจำนวนมากโดยไม่มีสินทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าเพียงพอมารองรับนั้น ทำให้ Stablecoin ซึ่งผูกกับสกุลเงินดอลลาร์ต้องตกที่นั่งลำบากจากปัญหาด้านความน่าเชื่อถือต่อองค์กรเบื้องหลังเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับกระทรวงการคลังของสหรัฐฯนั่นเอง
The policy approach to stablecoins is quite disjointed.
— Jake Chervinsky (@jchervinsky) September 28, 2020
Different jurisdictions (& even different policymakers within the same jurisdiction) are inconsistent in their view of stablecoins overall, not to mention the various stablecoin models.
It's a mess & being sorted slowly.