เหรียญคริปโตเสมือนเป็นยุคแห่ง Renaissance อย่างแท้จริง!
Stanley Druckenmiller มหาเศรษฐีและผู้จัดการกองทุนได้ออกมากล่าวแล้วว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่มีบทบาทเสมือนหนึ่งในยุคแห่งการเฟื่องฟูหรือ Renaissance
Stanley Druckenmiller มหาเศรษฐีและผู้จัดการกองทุนได้ออกมากล่าวแล้วว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่มีบทบาทเสมือนหนึ่งในยุคแห่งการเฟื่องฟูหรือ Renaissance
Stanley Druckenmiller มหาเศรษฐีและผู้จัดการกองทุนได้ออกมากล่าวแล้วว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่มีบทบาทเสมือนหนึ่งในยุคแห่งการเฟื่องฟูหรือ Renaissance
เหรียญคริปโตเป็นยุคแห่งความเฟื่องฟู
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มไม่มีความไว้วางใจในธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น เขากล่าวอีกว่า เขาเริ่มรู้สึกแปลกใจหากว่าปีหน้าประเทศสหรัฐอเมริกายังไม่เจอกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เอาไว้กับทางสำนักข่าวยักษ์ใหญ่อย่าง CNBC ในช่วงที่ผ่านมา
สอดคล้องกับข่าวที่ระบุว่า ธนาคารกลางของประเทศอังกฤษเริ่มมีการซื้อพันธบัตรของประเทศอังกฤษเอาไว้จำนวนกว่า 65 ล้านปอนด์ด้วยกัน เรื่องนี้ทำให้เขามองว่า หากว่าธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ เริ่มมีการทำแบบเดียวกันในช่วง 2-3 ปีหลังจากนี้ คาดว่าจะเกิดสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ตามมาอย่างแน่นอน
เริ่มไม่ไว้ใจธนาคารมากขึ้น
สำหรับบทบาทของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่นั้น เขาคิดว่ามันจะมีบทบาทเหมือนกับยุคแห่งการเฟื่องฟูหรือ Renaissance เนื่องจากเป็นยุคที่คนส่วนใหญ่เริ่มไม่มีความไว้วางใจต่อธนาคารกลางมากขึ้น อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่า เขาไม่ได้ถือครองเหรียญบิทคอยน์หรือเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ชนิดใด ๆ เลย โดยเขาอ้างว่า มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะถือครองเหรียญคริปโตได้หากธนาคารกลางยังคงดำเนินนโยบายแบบตึงตัวแบบนี้อยู่
สำหรับมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เขามองว่า ตอนนี้ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินความเสี่ยงในแบบชนิดที่ไม่น่าเชื่อเป็นอย่างมาก มันเหมือนกับการเดิมพันสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่สูงในรอบ 40 ปี และเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอาจเจอกับภาวะฟองสบู่แตกครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเห็นมาก็เป็นไปได้