🇹🇭 ข่าวในประเทศ

เศรษฐา ย้ำอีกครั้ง เงินดิจิทัล 10,000 บาท ห้ามซื้อของออนไลน์ - สินค้าอบายมุข

เศรษฐา ย้ำอีกครั้ง เงินดิจิทัล 10,000 บาท ห้ามซื้อของออนไลน์ - สินค้าอบายมุข

นายกเศรษฐา ย้ำอีกครั้ง นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ห้ามซื้อของออนไลน์ - อบายมุข กำหนดระยะใช้งานตามที่อยู่ในบัตรประชาชนเท่านั้น อยู่ไกลก็ต้องกลับไปใช้ที่บ้าน

วันที่ 21 กันยายน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับชุมชนคนไทยในการเยือนนครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย. โดยในตอนหนึ่งก็ได้กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาท ที่เป็นนโยบายชูโรงของพรรคเพื่อไทย

โดย เศรษฐา ทวีสิน ได้ย้ำอีกครั้งถึงข้อจำกัดของนโยบายว่าจะกำหนดให้สามารถใช้งานได้ไม่เกินระยะทางหนึ่งจากที่อยู่ในบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากเงื่อนไขครั้งแรกที่กล่าวว่าจะกำหนดเป็นระยะ 4 กิโลเมตร ซึ่งก็สอดคล้องกับ ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่ออกมากล่าวก่อนหน้า

อ่านข่าวต่อ - จุลพันธ์ ชี้คลังเตรียมขยายพื้นที่ใช้ ‘10,000 บาทดิจิทัล’ ให้กว้างเกิน 4 กม. ยันหารือแบงก์ชาติแล้ว ไม่ติดปัญหา - CryptoSiam

รวมไปถึงยังกล่าวว่านโยบายดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ซื้อขายออนไลน์ได้ เนื่องจากจุดประสงค์ของนโยบายคือการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค ซึ่งถ้าหากมีทะเบียนบ้านอยู่ไกลจากที่อยู่จริงก็จำเป็นต้องเดินทางกลับไปใช้ในพื้นที่ตามทะเบียนบ้าน รวมไปถึงไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าอบายมุขได้

ดิจิทัลวอลเลตของเราจำกัดในระยะทางในการใช้ตามบัตรประชาชน ถ้าบ้านคุณอยู่หนองบัวลำภูก็ต้องใช้ที่นั่น อยู่บึงกาฬก็ต้องใช้ที่นั่น อยู่กรุงเทพมหานครก็ต้องใช้ที่นั่น ระยะเวลาในการใช้ 6 เดือน จำกัดเพื่อเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นนะครับ

ประเภทสินค้าก็มีความสำคัญนะครับ จะทำ- ซื้อสินค้าอบายมุขไม่ได้ จะซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ได้ เพราะว่าก็ไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคตามที่เราต้องการ

อ้างอิง: Sanook

9 เงื่อนไขนโยบาย “ใช้จ่ายใกล้บ้านด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet)”

อ้างอิงจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทย ก็ได้มีการระบุเงื่อนไขสำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาทไว้เช่นกัน

  • คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้ ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ (Digital  Wallet)
  • กระเป๋าเงินดิจิทัลจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือน
  • ไม่สามารถซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ ไม่สามารถซื้อของที่เกี่ยวข้องกับอบายมุขโดยเฉพาะ ยาเสพติดและการพนันได้ อนุญาตให้ใช้สำหรับจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
  • ใช้จ่ายได้เฉพาะกับร้านค้าชุมชนและบริการที่อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
  • ร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารในโครงการในภายหลัง
  • เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ในระยะยาวเพื่อนำประเทศเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางของ FinTech
  • กระเป๋าเงินดิจิทัลคือเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตก-ราคาขึ้น เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่าเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล
  • กระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้ระบบ Blockchain มีความปลอดภัยสูงสุด สูงกว่าระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รู้เส้นทางการเงินทุกธุรกรรม รู้ผู้รับ รู้ผู้จ่าย เป็นระบบที่มีความโปร่งใสสูงสุด ตรวจสอบได้ทุกธุรกรรม
  • ทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จ่ายไปจะหมุนเวียนเข้ามาเป็นภาษีของรัฐบาลเพื่อเอา เงินไปสนุบสนุนประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin มีโอกาสอีก 25% ที่จะทำราคาขึ้นไปยังระดับ 160,000 ดอลล์ ภายในปี 2025
วิเคราะห์เหรียญ Solana! หาแนวรับ/แนวต้านล่าสุด 30/04/04
Polymarket เปิดโพล! พบผู้ใช้งานกว่า 42% เชื่อว่า CZ อดีต CEO Binance จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
JPMorgan เชื่อ! แม้เศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดการชะลอตัว