หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ เฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์ในบริษัทคริปโตมากขึ้น
หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้เริ่มเดินหน้าเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์มากขึ้น
หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้เริ่มเดินหน้าเฝ้าระวังภัยคุกคามทางไซเบอร์มากขึ้น
หน่วยงานทางด้านการข่าวกรองของประเทศเกาหลีใต้ได้มีการขอให้บริษัทแพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ การทำแบบนี้เพื่อให้ประเทศเกาหลีใต้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อบริษัทคริปโตได้
หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้เดินหน้าเฝ้าระวังภัยไซเบอร์
หน่วยงานทางด้านข่าวกรองของประเทศเกาหลีใต้หรือ NIS เริ่มมีการแจ้งเตือนไปยังบริษัทซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เกี่ยวกับความพยายามที่มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาทำการแฮกเพิ่มมากขึ้น โดยที่บริษัททั้ง 4 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Upbit, Bithumb, Korbit และ Coinone ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทั้ง 4 แห่งได้มีความเสี่ยงที่จะถูกเจาะข้อมูลได้ตลอดเวลา เรื่องนี้ทางด้านหน่วยงานข่าวกรองได้ระบุว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์เวลานี้เป็นภัยระดับทั้งภาครัฐและเอกชน และการทำแบบนี้เท่ากับว่าประเทศเกาหลีใต้กำลังเจอกับภัยคุกคามระดับประเทศ
หน่วยงานได้เน้นย้ำถึงเรื่องของการเฝ้าติดตามและแกะรอยผู้ไม่หวังดี ในอนาคตทางหน่วยงานมีแผนในการรับมือและขอข้อมูลจากบริษัทเป็นการเฉพาะทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวมัลแวร์ที่น่าสงสัยและกระบวนการแฮกที่มีความเชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง
สถาบันการเงินก็โดนด้วย
ไม่เพียงแค่บริษัทซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี่ที่จะตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ที่ถูกเป็นเป้าโจมตีของเหล่าแฮกเกอร์ที่คาดว่ามาจากประเทศเกาหลีเหนือ สอดคล้องกับองค์กรสหประชาชาติที่ได้กล่าวว่า ปัจจัยการคว่ำบาตรเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีการแฮกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตในประเทศเกาหลีใต้
เรื่องนี้ทางด้าน Chainalysis บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนได้กล่าวว่า ในช่วงระหว่างปี 2020-2021 เกาหลีเหนือได้มีการแฮกขโมยเงินมากถึง $50 ล้านในบริษัทซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ในแถบอเมริกาเหนือ, ยุโรปและเอเชีย