ข่าว Bitcoin

ราคา Bitcoin เผยสัญญาณ 'หายาก' ชี้อาจเข้าสู่จุดต่ำสุดของจริง

Template Private 61.png

4 ปีไม่เคยมีครั้งไหนที่ราคาไม่พุ่ง! อินดิเคเตอร์ ‘Difficulty ribbon’ ชี้สัญญาณ 'หายาก' กราฟราคา Bitcoin เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบปี นักวิเคราะห์ชี้ขาลงอาจกำลังจบ

4 สิงหาคม 2565 CoinDesk เปิดบทวิเคราะห์ มองอินดิเคเตอร์ ‘Difficulty ribbon’ ที่คำนวณจากกราฟค่า Difficulty ของการขุด Bitcoin กำลังเกิดสัญญาณ ‘หายาก’ อาจบอกเราได้ว่าราคา Bitcoin กำลังเข้าสู่ฐานของจริงและราคาจะกลับมาสู่ขาขึ้นในไม่ช้า ถ้าหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยทุกครั้งก่อนหน้า

โดยอินดิเคเตอร์ ‘Difficulty ribbon’ จะเป็นการรวมกันของเส้น Simple Moving Average (SMA) จำนวน 8 เส้น ตั้งแต่ค่าเฉลี่ย 9 วัน ไปจนถึง 200 วัน และนำมาคำนวณกับกราฟค่า Difficulty ในการขุด Bitcoin

สัญญาณ ‘หายาก’ SMA 9 ตัด SMA 200 ครั้งแรกใน 1 ปี

เมื่อไม่นานมานี้ เส้นค่าเฉลี่ย 9 วันได้ถูกบีบลงมาจนลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อย และในครั้งนี้ก็ยังเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีอีกด้วย

Image 3 1024x576.png
รูปภาพ - Glassnode, Cointelegraph

ถ้าหากย้อนดูในครั้งก่อนๆ อย่างครั้งล่าสุดในช่วงเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วก็จะพบว่าในช่วงราคากำลังดิ่ง ‘Difficulty ribbon’ และถูกบีบลงมาเช่นเดียวกับในครั้งนี้ และไม่นานหลังจากนั้นกราฟราคาก็กลับขึ้นมาอย่างรุนแรง

เช่นเดียวกันกับในช่วงเดือน กรกฎาคม, มีนาคม 2563 และมกราคม 2562 ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นในลักษณะเดียวกัน โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมาไม่มีครั้งใดเลยที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้แล้วราคาไม่พุ่งทะยานขึ้นไม่นานหลังจากนั้น

ค่า Dif ไปเกี่ยวอะไรกับราคา Bitcoin?

ค่า Difficulty ของการขุด Bitcoin หลักๆ ก็จะมีปัจจัยมากจากพลังขุดจากทั่วโลกรวมกัน ซึ่งก็อาจจะสามารถสะท้อนจำนวนนักขุด หรือเหมืองขุดต่างๆ ได้ จึงหมายความว่าเมื่อค่า Difficulty ในการขุด Bitcoin ลดลง ก็อาจจะหมายถึงจำนวนนักขุดหรือเหมืองขุดลดลงได้เช่นกัน

ซึ่งปกติแล้วนักขุดหรือเหมืองขุด Bitcoin ก็มักจะขาย BTC ที่ขุดมาได้ออกไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปจ่ายค่าใช้จากในการดำเนินการขุด อย่างค่าไฟ, ค่าเช่าสถานที่, ค่าจ้างเจ้าหน้าที่ และอื่นๆ ดังนั้นเมื่อจำนวนผู้ขุดลดลง ก็จะหมายถึงคนที่จะคอยขาย Bitcoin อย่างต่อเนื่องก็จะลดลงด้วยเช่นกัน ก็จะเท่ากับว่าแรงขายที่กระทำต่อราคา Bitcoin ก็จะลดลง

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงทฤษฎีและการอ้างอิงจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาเท่านั้น ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าในครั้งนี้จะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับครั้งก่อนๆ หรือไม่ รวมไปถึงการเข้ามาลงทุนของสถาบันที่มากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ความเป็นไปได้ของทฤษฎีนี้ลดลงไปอีก

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง