ข่าวธุรกิจ

Rakuten เปิดตัวตลาด NFT หลังทนกระแสนิยมไม่ไหว

Rakutennft.png

บริษัท e-commerce ชื่อดัง Rakuten เปิดตัวตลาด NFT พร้อมเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโตแล้ว หลังจากกระแสความนิยมในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ความนิยมในตัวสินทรัพย์ NFT เมื่อปี 2021 นั้นเพิ่มขึ้นมหาศาล และยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ในช่วงต้นปี 2022 ได้ทำให้ บริษัทชื่อดังจากแดนปลาดิบ Rakuten เปิดตัวตลาด NFT ของตนเองภายใต้ชื่อ Rakuten NFT ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Rakuten เปิดตัวตลาด NFT ที่ช่วยให้ศิลปินสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้

บริษัท e-commerce ชื่อดังได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการเปิดตัวตลาดซื้อขาย Non-Fungible Token (NFT) ของตนเองที่ได้รับการจดทะเบียนเมื่อปี 2021 ท่ามกลางความนิยมในตัว NFT จากผู้คนทั่วโลกที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตลาด NFT แห่งใหม่นี้ยังเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่อนุญาตให้เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาสร้างเว็บไซต์ของตนเองเพื่อผลิต และขายผลงาน NFT ของพวกเขาได้

องค์กรรายใหญ่ให้ความสนใจ และลงทุนในตลาด NFT มากขึ้นในญี่ปุ่น

ด้วยจำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นที่มีมากกว่า 126 ล้านคน และวัฒนาธรรม Pop Culture ที่มีชื่อเสียงจากอนิเมะ และมังงะ ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างมองว่าญี่ปุ่นมีความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดการยอมรับสินทรัพย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ Blockchain เช่น ของสะสมคริปโตได้ง่ายดายกว่าประเทศอื่น ๆ จึงส่งผลให้ในปี 2021 ตลาด NFT ทั่วโลกได้รับการพัฒนาอย่างมาก หลังจากปริมาณการซื้อขาย และการยอมรับจากผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดจากหลายภาคส่วนได้เริ่มหันมาให้ความสนใจ และเข้าลงทุนกับ NFT กันอย่างเนืองแน่น

Enjinn 1024x576.png

ทั้งนี้มูลค่าของตลาด NFT นั้นยังคงพุ่งทะยานขึ้นอย่างไม่ลดละ จึงส่งผลให้กระแสความนิยมในตัวนวัตกรรมเหล่านี้นั้นเติบโตตามไปด้วย โดยในเดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา Coincheck แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตในญี่ปุ่นก็ได้ออกมาเปิดตัวตลาด NFT เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในเดือนกรกฎาคม Mai Fujimoto ผู้ที่ศรัทธาในสกุลเงินดิจิทัล หรือที่รู้จักกันในชื่อ Miss Bitcoin ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาเกม Blockchain ชื่อดังอย่าง Enjin เพื่อสร้างองค์กรเพื่อการกุศลจาก NFT ขึ้นในญี่ปุ่นอีกด้วย

ผลสำรวจเผยวัยรุ่นญี่ปุ่นให้ความสนใจกับ NFT กันอย่างล้นหลาม

BitBank บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการสำรวจผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทัลในตลาดคริปโตญี่ปุ่นจำนวนกว่า 2,061 รายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม ไปจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมาถึงแนวโน้มการลงทุน NFT ในตลาดคริปโต ซึ่งพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 40 ปี มีจำนวนมากกว่ากลุ่มผู้ใหญ่ชาวญี่ปุ่นมาก โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนกว่า 60% คิดว่าจะถือครองสินทรัพย์ประเภทนี้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังพบกว่าอีกกว่า 19% ได้ใช้ NFT เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองอีกด้วย

ทั้งนี้ข้อมูลข้างต้นได้บ่งชี้เพิ่มเติมว่า NFT ประเภทที่ถูกสร้างขึ้นมาจากผลงานศิลปะนั้นได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจมากที่สุด โดย NFT ประเภทอื่นที่ได้รับความนิยมมากรองลงมา ได้แก่ เกม, Metaverse, ความบันเทิง และ กีฬา เป็นต้น

ไม่ใช่แค่เพียง NFT แต่ตลาดคริปโตก็เติบโตมากขึ้นไม่แพ้กัน

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ เราเริ่มจะได้เห็นการลงทุนคริปโตที่เกิดขึ้นอย่างมากในแดนปลาดิบไม่แพ้ความนิยมในตัวสินทรัพย์ NFT เลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าผู้ให้บริการแอปพลิเคชันส่งข้อความชื่อดังอย่าง LINE เองก็ได้ออกมาประกาศเปิดให้ใช้งานโทเคนประจำองค์กรเพื่อเป็นการทดลงใช้งานจากสถานที่จริง โดยมีเป้าหมายที่จะอำนวยความสะดวก และเพิ่มทางเลือกในการชำระเงินให้กับลูกค้า นอกจากนี้ทางด้านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังอย่าง FTX ก็ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการ Liquid Group ในญี่ปุ่น และบริษัทในเครือ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อย และนักลงทุนจากสถาบันทั้งในประเทศ และทั่วโลก

ชาวญี่ปุ่นขึ้นแท่นชาติที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับคริปโตมากที่สุด

Finderr.png

จากผลสำรวจของ Finder เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2021 ที่ผ่านมา ได้ทำการสำรวจ และวิเคราะห์ความรู้เกี่ยวกับ NFT ของผู้คนในแต่ละประเทศ ซึ่งบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ผู้คนขาดความรู้ว่า NFT คืออะไรมากที่สุดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 90% ตามมาด้วยชาวเยอรมัน 82.6%, อังกฤษ 79% และอาร์เจนตินาที่ 75.5% ตามลำดับ ในขณะที่ชาวไทยของเรานั้นพบจำนวนผู้ที่ขาดความรู้ในด้านดังกล่าวที่ 52.7% ตามหลังเพียงแค่ไนจีเรีย และ ฟิลิปปินส์เท่านั้น

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC