ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ยังเทขายใกล้จุดสูงสุด กดดันแนวโน้มราคาของ XRP
Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Ripple ทำกำไรจากการขาย XRP ไปแล้วกว่า 764 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าพฤติกรรมการเทขายซ้ำใกล้จุดสูงอาจกดดันแนวโน้มราคาต่อเนื่อง

Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Ripple ทำกำไรจากการขาย XRP ไปแล้วกว่า 764 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 2018 ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าพฤติกรรมการเทขายซ้ำใกล้จุดสูงอาจกดดันแนวโน้มราคาต่อเนื่อง
XRP ยังคงเผชิญแรงขายหลังจากที่ Chris Larsen หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple ถูกจับตาว่ายังคงเทขายเหรียญของตนในช่วงราคาสูงสุดของตลาดขาขึ้นรอบนี้
นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มวิเคราะห์ออนเชน CryptoQuant อย่าง J. A. Maartunn ระบุในโพสต์บน X ว่า Larsen มี “นิสัยในการขายทำกำไรใกล้จุดสูงสุดในแต่ละรอบ” ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชนที่เผยว่าเขาได้ทำกำไรจากการขาย XRP ไปแล้ว 764,209,610 ดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2018
“Chris Larsen ทำกำไรสะสมจากการขาย XRP ไปแล้วกว่า 764 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2018” — Maartunn กล่าว
ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า XRP ปัจจุบันร่วงลงมากกว่า 34% จากจุดสูงสุดที่ 3.66 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากแรงขายจากกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับ Larsen
ล่าสุด Maartunn เผยว่า Larsen ได้โอน 50 ล้าน XRP ออกจากกระเป๋าเงินของตน โดยต่อมาเจ้าตัวได้ยืนยันว่าเป็นการลงทุนในกองทุน Evernorth Treasury แต่ Maartunn ก็ยังย้ำว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เพราะ “Larsen มีพฤติกรรมเทขายซ้ำใกล้จุดสูงอยู่บ่อยครั้ง”
ณ ปัจจุบัน Larsen ยังถือครอง XRP มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจยังเป็นแรงกดดันด้านอุปทานในอนาคต
แนวรับสำคัญของราคา XRP
หากต้องการกลับตัวจากแนวโน้มขาลง ราคาของ XRP/USD จำเป็นต้องยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (200-day SMA) ที่บริเวณ 2.60 ดอลลาร์ เพื่อเปิดทางไปยังแนวต้านถัดไปเหนือระดับ 3 ดอลลาร์
การกลับมายืนเหนือระดับดังกล่าวในอดีตมักนำไปสู่การฟื้นตัวแรง เช่น ที่เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
แนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ช่วง 2.74–2.80 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (50-day SMA) และตามด้วยแนวต้านถัดไปที่ 2.94 ดอลลาร์ บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน (100-day SMA) ซึ่งหากทะลุได้จะเป็นสัญญาณการจบแนวโน้มขาลง
ขณะเดียวกัน ดัชนี RSI ของ XRP แสดงสัญญาณ Bullish Divergence หมายความว่าราคายังคงลดลงแต่ RSI ปรับตัวขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงอาจใกล้สิ้นสุดแล้ว
นอกจากนี้ สัญญาณการตัดขึ้นของ MACD ก็อาจช่วยเพิ่มแรงขับให้เกิดการฟื้นตัวได้ หากแรงซื้อสามารถผลักราคาขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 20 วันที่ 2.55 ดอลลาร์ จะถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการกลับมาเป็นขาขึ้นในรอบใหม่ของ XRP
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว