การบีบตัวของราคา Bitcoin เตรียมจุดชนวนขาขึ้นครั้งใหม่ — BTC มีโอกาสพุ่งแตะ $120,000?
แม้ราคาจะยังถูกกดดันไว้ที่ระดับ $112,000 แต่ข้อมูลทางเทคนิค และปัจจัยเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่กำลังจะสิ้นสุดปลายเดือนตุลาคม บ่งชี้ว่าการบีบตัวของราคาครั้งนี้อาจนำไปสู่ขาขึ้นรอบใหม่
แม้ราคาจะยังถูกกดดันไว้ที่ระดับ $112,000 แต่ข้อมูลทางเทคนิค และปัจจัยเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่กำลังจะสิ้นสุดปลายเดือนตุลาคม บ่งชี้ว่าการบีบตัวของราคาครั้งนี้อาจนำไปสู่ขาขึ้นรอบใหม่
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีแรงขายกดไว้ที่โซน $112,000 ในขณะที่แรงซื้อก็กลับเข้ามาที่ระดับ $107,000–$108,000 ส่งผลให้เกิดภาวะ “การบีบตัวของราคา” ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นสัญญาณเตรียมเกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
นักเทรดเชิงเทคนิคชี้ว่า “Compression Before Expansion” หรือ การบีบตัวก่อนการขยายตัว มักเกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดมีความผันผวนลดลงและช่วงที่ราคากำลังสร้างฐาน เช่นเดียวกับรอบนี้หลังจากเกิดการเทขายครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งทำให้ Open Interest ของ Bitcoin ลดลงกว่า 50%
สัญญาณบวกจาก ETF และการสะสมของนักลงทุน
ข้อมูลจาก CoinShares เผยว่าในวันอังคารที่ผ่านมา กองทุน Spot Bitcoin ETFs มียอดเงินไหลเข้ารวม $477 ล้าน ในขณะที่ราคาของ BTC ฟื้นตัวจาก $107,500 ขึ้นไปถึง $114,000 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่านักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันยังมองว่า Bitcoin กำลังซื้อขาย “ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง”
ข้อมูลจาก Glassnode ยังชี้ว่า Bitcoin Accumulation Trend Score อยู่ที่ 0.924 ซึ่งหมายถึงเครือข่ายโดยรวมกำลังอยู่ในช่วงการสะสม โดย Glassnode อธิบายว่า “ค่าที่ใกล้ 1 แสดงว่ากลุ่มผู้ถือรายใหญ่กำลังเข้าซื้อสะสม ในขณะที่ค่าที่ใกล้ 0 แปลว่ามีการขายหรือหยุดสะสม”
ในตลาด Spot ของ Binance และ Coinbase ยังพบแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับ $101,500 จนถึง $114,000 ตลอดช่วงการเคลื่อนไหวของราคาในสัปดาห์นี้
ปัจจัยมหภาคสหรัฐฯ อาจปลดล็อกความกลัวในตลาด
นักวิเคราะห์หลายรายมองตรงกันว่า การบีบตัวของราคาในครั้งนี้อาจสิ้นสุดลงในต้นสัปดาห์หน้า โดยมีโอกาสที่ BTC จะเคลื่อนไหวทะลุกรอบแนวต้านเดิมและมุ่งหน้าสู่ระดับ $120,000
ปัจจัยหนึ่งที่อาจหนุนให้เกิด “การพุ่งขึ้นครั้งใหม่” คือชุดข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังจะเปิดเผยช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยคลี่คลายปัจจัยความกังวลในตลาด เช่น นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการรายงานผลประกอบการของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3
หากแรงซื้อจากฝั่ง ETF และสถาบันยังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับความผันผวนที่ลดลงในช่วงนี้ การพุ่งขึ้นครั้งต่อไปของ Bitcoin อาจเริ่มต้นได้ในไม่ช้า และเป้าหมายระดับ $120,000 ก็อาจไม่ไกลเกินเอื้อม
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
