ดัชนีความกลัวและความโลภคริปโตแตะ ‘Extreme Fear’ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 14 ต่ำกว่าช่วงวิกฤต FTX แม้ราคา Bitcoin ยังสูงกว่าถึง 5 เท่า
ตลาดคริปโตยังคงจมอยู่ในบรรยากาศของความกลัวต่อเนื่องสองสัปดาห์ ดัชนี Fear & Greed ลดต่ำกว่าช่วงล่มสลายของ FTX ในปี 2022 แม้ Bitcoin ยังซื้อขายอยู่ราว $88,000
ตลาดคริปโตยังคงจมอยู่ในบรรยากาศของความกลัวต่อเนื่องสองสัปดาห์ ดัชนี Fear & Greed ลดต่ำกว่าช่วงล่มสลายของ FTX ในปี 2022 แม้ Bitcoin ยังซื้อขายอยู่ราว $88,000
ดัชนี Crypto Fear & Greed Index ซึ่งวัดระดับอารมณ์ของนักลงทุนในตลาดคริปโต ยังคงอยู่ในโซน “Extreme Fear” ติดต่อกันเป็นวันที่ 14 โดยลดลงอีก 3 จุดเหลือ 20 จาก 100 ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดัชนีตกอยู่ในโซนความกลัวรุนแรงยาวนานที่สุด นับตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ครั้งแรกในปี 2018
ความกลัวกดดันตลาดต่อเนื่องจากเดือนตุลาคม
ความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตเริ่มอ่อนแรงลงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม หลังความกังวลเรื่องสงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯ-จีนกลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของคริปโตร่วงหายไปกว่า $500,000 ล้าน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม
นอกจากนี้ ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่อาจ “ชะลอการลดดอกเบี้ย” ในไตรมาสแรกของปี 2026 ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นในตลาด
Jeff Mei ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของกระดานเทรด BTSE เตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า หาก Fed ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม Bitcoin อาจร่วงลงแตะ $70,000
ขณะที่ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า Bitcoin ปัจจุบันมีราคาซื้อขายลดลงประมาณ 30% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $126,080 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม
แม้ราคาจะยังอยู่สูงกว่าช่วงล่มสลายของ FTX เกือบห้าเท่า แต่ระดับคะแนนของดัชนีความกลัวกลับต่ำกว่าช่วงเหตุการณ์นั้น ซึ่งเคยส่งผลให้ราคา Bitcoin ดิ่งลงใกล้ $16,000 และสร้างึวามหวาดกลัวให้กับความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมคริปโตในเวลานั้น
ปริมาณการค้นหาและความสนใจคริปโทหายไปจากโลกออนไลน์
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Alphractal เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า ปริมาณการค้นหาเกี่ยวกับคริปโตบน Google รวมถึงจำนวนการเข้าชมใน Wikipedia และการพูดคุยในฟอรัมออนไลน์ต่างๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
“กิจกรรมบนโซเชียลของคริปโตกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงตลาดหมี” Alphractal กล่าว
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ “หมดกำลังใจและห่างหายจากตลาด” โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม 2025 ที่ตลาดขาดแรงซื้อจากฝั่งรายย่อยอย่างชัดเจน
Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bitwise กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า การปรับฐานของตลาดและบรรยากาศเชิงลบส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มนักลงทุนคริปโทดั้งเดิม หรือ “Crypto native retail” ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากความผิดพลาดในอดีต
“นักลงทุนกลุ่มนี้ถูกซัดหนักจาก FTX ถูกทำร้ายซ้ำด้วยกระแส memecoin และผิดหวังจาก altcoin season ที่ไม่มาสักที… พวกเขาเจ็บจากเหตุการณ์ liquidations ใหญ่ในวันที่ 10 ตุลาคม และตอนนี้เลือกที่จะ ‘พักจากตลาด’ ไปก่อน” Hougan กล่าว
อย่างไรก็ตาม Hougan ชี้ว่า นักลงทุนรายย่อยฝั่งตลาดการเงินดั้งเดิม (TradFi retail) กลับมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยเฉพาะจากกระแส กองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
“กลุ่ม retail แบบดั้งเดิม อย่างเช่นคนรุ่นพ่อหรือรุ่นลุงของผม กำลังเข้ามาในคริปโตมากขึ้น ส่วนนี้ของตลาดยังมีชีวิตชีวาอยู่”
ข้อมูลจาก Bitwise ระบุว่า กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มียอดเงินไหลเข้าสะสมแล้วกว่า $25,000 ล้าน ตลอดปี 2025 แม้ราคา Bitcoin จะติดลบประมาณ 5% ตั้งแต่ต้นปี ก็ตาม
แม้ตลาดคริปโตจะยังคงเผชิญบรรยากาศความกลัวรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี แต่สำหรับนักวิเคราะห์บางราย นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ “ความกลัวสุดขีด” กำลังปูทางสู่โอกาสกลับตัวครั้งใหม่ของรอบตลาดครั้งถัดไป
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
