Novogratz หวังว่า Biden จะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวสำหรับ Crypto
Mike Novogratz CEO ของบริษัท Galaxy Digital หวังว่าผู้ดูแลสหรัฐคนใหม่อย่าง Biden จะกลับท่าทีการต่อต้านสกุลเงิน Crypto ของ Trump โดยเขามองว่านโยบายของทรัมป์ว่าเป็นการ “anti-dollar” และ “anti-innovation”

Mike Novogratz CEO ของบริษัท Galaxy Digital หวังว่าผู้ดูแลสหรัฐคนใหม่อย่าง Biden จะกลับท่าทีการต่อต้านสกุลเงิน Crypto ของ Trump โดยเขามองว่านโยบายของทรัมป์ว่าเป็นการ “anti-dollar” และ “anti-innovation”
สหรัฐอเมริกากำลังต้องการกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลแบบเปิดกว้างจากการบริหารงานของ Biden ที่พึ่งเข้ามาใหม่ ตามคำกล่าวของ Mike Novogratz ซึ่งเป็น CEO ของ Galaxy Digital
จากการปรากฏตัวของหัวหอกแห่งบริษัทการลงทุนคริปโตชื่อดังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในช่วง Sqwuak Box ของสถานีโทรทัศน์ CNBC คุณ Novogratz ได้กล่าวว่า ตลาด Bull market ของสกุลเงิน Bitcoin (BTC) ได้พิสูจน์แล้วว่ามีความยืดหยุ่นเหนือกระแสการต่อต้านสกุลเงิน Crypto ที่มาจาก Capitol Hill หรือ รัฐสภาของสหรัฐ

“มันกำลังบอกให้คุณทราบว่าตลาด Bull market นี้มีประสิทธิภาพเพียงใด [...] พวกเขาต่างจู่โจมรูปแบบต่าง ๆ นานากับระบบ และมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย”
อย่างไรก็ตามเพื่อให้อุตสาหกรรม Cryptocurrency ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในระยะยาวจำเป็นต้องมีความชัดเจนด้านกฎระเบียบมากขึ้น เมื่ออ้างอิงถึงการบริหารของ Biden ที่พึ่งเข้ามา Novogratz กล่าวว่า
“ผมหวังว่าคุณจะรู้เรื่องนี้ โดยเรากำลังจะเปลี่ยนเหล่าผู้ดูแลบ้านเมืองใน 20 วัน และผมหวังว่าเราจะได้หน่วยงานกำกับดูแลที่เปิดกว้างมากขึ้น”
ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง
การออกจากทำเนียบขาวของประธานาธิบดีทรัมป์ ถือเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมสกุลเงิน Crypto โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เครือข่ายการบังคับใช้อาชญากรรมทางการเงินของกระทรวงการคลัง (FinCEN) ได้เสนอกฎการเปิดเผยข้อมูลฉบับใหม่สำหรับ ผู้ถือครองกระเป๋าเงินที่โฮสต์เอง (Self-hosted) หรือไม่มีโฮสต์ (Unhosted) ซึ่งก็คือกระเป๋าเงินที่ไม่ได้รับการบริการโดยสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการด้าน Crypto โดยที่อยู่นั้นจะอาศัยอยู่ในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ หรือออฟไลน์ไปเลย
อีกกรณีหนึ่งซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีทางด้านกฎหมายที่เกิดขึ้นกับผู้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมนี้ ก็คือเหตุการณ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. (SEC) ของสหรัฐฯ กำลังฟ้องร้อง Ripple ในข้อหาการขายการรักษาความปลอดภัยที่ไม่ได้ลงทะเบียนในรูปแบบของโทเค็น XRP ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ทำคดีนี้อย่างระมัดระวังด้วยรายละเอียดที่มีกว่า 71 หน้าของบริษัท Ripple ที่ออกไปแล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้
The 70-page SEC complaint against #Ripple is a teardown of breathtaking detail and scope. It's not a petty or vindictive gesture: it's a well-researched and well-articulated document that alleges a scheme of epic proportions.
— Jon Rice (@JonRiceCrypto) December 22, 2020
You should read it. https://t.co/CCoykYk317 pic.twitter.com/oArxi3y3bo
“การร้องเรียนของ SEC ต่อ #Ripple ที่มีจำนวน 70 หน้านั้น เป็นรายละเอียดที่น่าทึ่ง นี่ไม่ใช่เจตนาร้าย แต่เป็นเอกสารที่ทำการวิจัยมาเป็นอย่างดี และมีการชี้แจ้งอย่างชัดแจ้ง ที่กล่าวถึงโครงร่างของสัดส่วนที่ยิ่งใหญ่”
การไม่เปิดใจจะนำมาซึ่งความด้อยพัฒนา
Novogratz และเหล่าผู้คร่ำหวอดในวงการคริปโตคนอื่น ๆ เชื่อว่ากฎหมาย Cryptocurrency ที่โบราณจะขัดขวางนวัตกรรม และการนำสกุลเงินดิจิทัลไปใช้ในสหรัฐอเมริกา นี่เหมือนเป็นการปูทางให้คู่แข่งอย่าง จีน ในการครองตลาด ถ้าหากให้พูดอย่างแดกดันล่ะก็ นี่เป็นหนึ่งในข้อโต้แย้งที่ Ripple ใช้เพื่อตอบโต้การฟ้องร้องของ SEC
ในการให้สัมภาษณ์ของเขากับ CNBC คุณ Novogratz ยังกล่าวว่า กฎหมายของสกุลเงิน Crypto ที่ถูกออกมาแบบหัวชนฝาจะมี "ผลกระทบที่ไม่คาดคิดมากมาย" โดยกล่าวเสริมว่า "มันจะผลักดันสิ่งดี ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในวงการ Cryptoออกไป"อ