Blockchain

คู่รักชาวอินเดียจัดงานแต่งงานบน Blockchain

Image 95.png

Anil และว่าที่ภรรยาของเขาพร้อมจัดงานแต่งงานบน Blockchain หลังได้รับแรงบันดาลใจจากบ่าวสาวชาวแคลิฟอร์เนียที่เคยจัดพิธีวิวาห์ดิจิทัลมาแล้วในปี 2021

Shruti Nair และ Anil Narasipuram บ่าวสาวคู่ใหม่จากเมืองปูเณ ประเทศอินเดียได้สานต่อฝันของพวกเขาด้วยการนำ Non-Fungible Token (NFT) มาใช้ในพิธีวิวาห์เพื่อแปลงความรักให้อยู่ในรูปของสินทรัพย์ดิจิทัลไปตลอดกาลผ่านการจัดงานแต่งงานบน Blockchain ของ Ethereum (ETH) ที่จะช่วยยกระดับงานแต่งงานให้ก้าวล้ำขึ้นไปอีกขั้น หลังได้รับแรงบันดาลใจจากคู่รักดิจิทัลรายอื่น ๆ

งานแต่งงานบน Blockchain ของคู่รักชาวอินเดียจะแปลงคำสาบานเป็น NFT

Anil ผู้เป็นเจ้าบ่าวพูดถึงแรงบันดาลใจที่เขาได้รับจากการอ่านบทความเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานของ Rebecca Kacherginsky พนักงานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์แห่ง Coinbase ด้วย Blockchain ของชาวต่างชาติ และไอเดียเหล่านี้ได้ช่วยกระตุ้นให้เขานำมาปรับใช้ในงานแต่งงานของตนเองเช่นเดียวกัน โดยพวกเขาได้ดำเนินการติดต่อ Anoop Pakki ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มาเป็นผู้รับผิดชอบทำหน้าที่มินต์ภาพคำสาบานของทั้ง 2 บ่าวสาวให้กลายเป็น NFT บนแพลตฟอร์ม OpenSea หรือในอีกนัยหนึ่งก็คือการเข้ามาทำหน้าที่เป็นนักบวชดิจิทัลนั่นเอง

30bd55dd 1521 4980 Be43 C97fce5fc9b7 768x1024.jpg
Shruti Nair และ Anil Narasipuram บ่าวสาวคู่ใหม่จากเมืองปูเณ ประเทศอินเดีย

อย่างไรก็ตามเขาได้กล่าวอธิบายถึงขั้นตอนการทำงานคร่าว ๆ ว่า

“เราทั้ง 2 คนจะอ่านคำสาบาน และหลังจากได้รับพรจากนักบวชดิจิทัลของเราแล้ว ผมจะดำเนินการยืนยันธุรกรรมให้สามารถนำไปแปลงเป็น NFT เพื่อส่งตรงเข้าสู่ Wallet ดิจิทัลของภรรยาผมในขั้นสุดท้าย”

มาทำความรู้จักกับคู่บ่าวสาวดิจิทัลที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนทั่วโลก

Rebecca Rose และ Peter Kacherginsky คู่สามีภรรยาที่ประกอบอาชีพเป็นพนักงานแห่งบริษัท Coinbase ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตชั้นนำในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมาระบุว่าพวกเขาทั้งคู่สามารถใช้บล็อกเชนของ Ethereum เพื่อแต่งงานอย่างถูกกฎหมายได้

คู่รักชาวยิวแล้ว Kacherginsky ได้ทำการเขียนสัญญาอัจฉริยะ Ethereum ชื่อ Tabaat พร้อมกับสร้างแหวนที่สามารถ Tokenized ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคน TBT เพื่อนำไปจัดเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์คู่รักได้ โดยคำว่า Tabaat นั้นเป็นภาษาฮีบรูที่แปลว่าแหวนนั่นเอง

Ex8 K Qrj Uua Er X E 1024x835.jpg
Source : Rebecca Rose's Twiitter

การจัดงานแต่งงานบน Blockchain ถูกกว่าการจัดงานโดยทั่วไป

ทั้งนี้พิธีการแต่งงานเสมือนจริงของ Kacherginsky จะประกอบไปด้วยการทำธุรกรรมทั้งหมด 2 รายการด้วยกัน ได้แก่ การโอน ‘แหวน’ ของ NFT จากสัญญาไปยัง Rose และ Peter โดยพิธีทั้งหมดจะใช้เวลาเพียงแค่ 4 นาทีในการตรวจสอบความถูกต้องโดยเครือข่าย Ethereum และมีค่าธรรมเนียมการขุด 50 ดอลลาร์

ทางด้านของการจัดพิธิแต่งงานของคู่รักชาวอินเดียเอง เจ้าบ่าว Anil ยังระบุว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และค่าธรรมเนียมนั้นมีมูลค่าเท่ากับ ETH ประมาณ 35 ดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาทั้ง 2 ก็จะได้รับการประกาศให้เป็นสามี และภรรยากันอย่างถูกต้องโดยนักบวชดิจิทัล

เมื่อลองมองย้อนกลับมาที่การจัดพิธิแต่งงานในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ จึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการแต่งงานบนโลกดิจิทัลนั้นมีราคาถูกกว่า

การแต่งงานแบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นครั้งแรกของโลก

แม้เรื่องราวของ 2 คู่รักจะน่าทึ่งเพียงไหนก็ตาม แต่ทว่าเหตุการณ์ทั้งหมดยังไม่ใช่การแต่งงานดิจิทัลครั้งแรกของโลก ย้อนกลับไปในช่วงก่อนหน้านี้ คู่รัก David Mondrus และ Joyce Bayo ได้นำ Distributed Ledger Technology (DLT) มาใช้เพื่อลั่นระฆังวิวาห์มาแล้ว ในเดือนตุลาคม ปี 2014 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเข้าพิธีวิวาห์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุม Bitcoin แบบส่วนตัวที่ Disney World ในออร์แลนโดฟลอริดา ผ่านการสแกน QR code  

Blockchainmarry.png
คู่รัก David Mondrus และ Joyce Bayo

การยอมรับคริปโตภายในอินเดียเริ่มเติบโตมากขึ้นแล้ว

แม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์ด้านนโยบายการกำกับดูแลคริปโตในประเทศอินเดียจะยังคงตึงเครียด และเป็นที่น่ากังวลอยู่ก็ตาม แต่ทว่าก็ได้ประชาชนในบางส่วนที่ยังคงให้การยอมรับ และนำคริปโตไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเราจะเห็นได้ชัดจากการแต่งงานของคู่รัก Narasipuram ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีแห่งอินเดียก็ได้ออกมายอมรับว่า คริปโตนั้นมีศักยภาพในการช่วยยกระดับความเป็นประชาธิปไตยให้กับทั่วโลกได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งผู้คนทั่วโลกไม่ควรมองข้ามคริปโตไปเป็นอันขาด

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง CryptoSiam ได้มีการรายงานถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งอินเดีย Nirmala Sitharaman ที่ได้ออกมาประกาศเปิดตัวโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) พร้อมเรียกเก็บภาษีคริปโต 30% ภายในปี 2022 – 2023 ซึ่ง Sitharaman เชื่อมั่นว่าการเปิดตัว CBDC จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ภูฏานนำ 10,000 Bitcoin จากทุนสำรองชาติ พัฒนา “Mindfulness City” เมืองต้นแบบเศรษฐกิจยั่งยืน
นักวิเคราะห์ชี้ หาก Bitcoin ร่วงสู่ 70,000 ดอลลาร์จะเป็นการ “รีเซ็ตตลาด” มากกว่าสัญญาณขาลงรอบใหม่
ธนาคารสหรัฐฯ เตรียมออก Stablecoin ได้เอง ภายใต้แผนของ FDIC ตามกฎหมาย GENIUS Act
Ham's Rectangle Template   2025 12 17 T051314.364