ข่าว Bitcoin

แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือฟอกเงินดิจิทัลที่ขโมยมาอย่างไร

North Korea.jpg

เราจะพาคุณมาเจาะลึกกับเทคนิคอันแสนซับซ้อนในการฟอกเงินดิจิทัลที่โจรกรรมมาได้ของเหล่าแฮ็กเกอร์แดนโสมเหนือ ประเทศที่ซึ่งซ่องสุมกองกำลังนักรบไซเบอร์ไว้จำนวนมหาศาล

บริษัทรักษาความปลอดภัยข้ามชาติของประเทศอังกฤษอย่าง BAE Systems และสมาคมเพื่อการสื่อสารการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication (SWIFT) ได้ออกมาเผยแพร่รายงานที่เปิดเผยว่าอาชญากรไซเบอร์แห่งประเทศเกาหลีเหนือนั้นทำการฟอกสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างไร

วิสัยทัศน์ของท่านผู้นำทำให้เกาหลีเหนือมาไกลได้ขนาดนี้

จากการรายงานก่อนหน้านี้ของ CryptoSiam ทำให้เราเห็นภาพว่าประเทศปิดอย่างเกาหลีเหนือนั้นน่ากลัวเพียงใด ในเรื่องการก่ออาชญากรรมทางโลกไซเบอร์ เนื่องด้วยท่านผู้นำคิม หรือที่เรารู้จักกันในนามคิมจองอิล ได้ให้ความสนใจในหน่วยงานด้านนี้เป็นอย่างมาก สังเกตได้จากการรับงบประมาณถึง 10-20% ของงบประมาณทางการทหารทั้งหมดเลยทีเดียว

ที่พิเศษไปยิ่งกว่านั้น ท่านผู้นำคิม ยังได้มอบสถานะพิเศษแก่เหล่าแฮ็กเกอร์ให้เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจชั้นดีให้ผู้คนหันมาแสวงหาความรู้ด้านการโจรกรรมผ่านระบบ และเป็นผลให้ท่านผู้นำสูงสุดสามารถซ่องสุมกองกำลังนับรบออนไลน์เหล่านี้ไว้มากกว่า 6,000 คน ตามประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งโลก

องค์กรทั่วโลกกำลังจับตาดูเกาหลีเหนือ

รายงานเจาะลึกเกี่ยวกับเทคนิคการฟอกเงินในครั้งนี้เป็นการศึกษาวิธีการที่ใช้โดย Lazarus Group ซึ่งเป็นแก๊งแฮ็กเกอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งพวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ

โดยทั่วไปแล้ว Lazarus จะเริ่มต้นขโมยเงิน Crypto จากผู้ให้บริการด้านแลกเปลี่ยน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทำธุรกรรมผ่านบริการการแลกเปลี่ยนหลากหลายรายการโดยใช้สิ่งที่เรียกว่า "เทคนิคการแบ่งชั้น"

การศึกษาระบุว่า เหล่าแฮ็กเกอร์จะทำการจ้างเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในเอเชียตะวันออกซึ่งได้รับเงินส่วนหนึ่งที่ถูกขโมยมาได้ไปเพื่อช่วยในการฟอกเงิน ผู้อำนวยความสะดวกเหล่านี้โอน Crypto ไปยังที่อยู่จำนวนมากที่พวกเขาเป็นเจ้าของเพื่อทำให้ “เกิดความซับซ้อน และสับสนในแหล่งที่มาของเงิน”

“ผู้อำนวยความสะดวกจะย้ายเงินส่วนหนึ่งที่ได้รับผ่านบัญชีธนาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชีแลกเปลี่ยนของพวกเขาซึ่งจะช่วยให้สามารถแปลงจากสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินดั้งเดิมได้ เงินที่ถูกขโมยอื่น ๆ อาจถูกโอนเป็น Bitcoin ไปยังบัตรของขวัญแบบเติมเงินซึ่งสามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ เพื่อซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมได้อีกในขั้นตอนต่อไป”

เมื่อเทียบกับเงินสดแล้ว การฟอกเงินดิจิทัลดูเล็กน้อยไปเลย

จากการศึกษาติดตามคดีความการฟอกเงินผ่าน Crypto ทำให้เราพบว่ามันเกิดขึ้นค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการฟอกเงินสดจำนวนมากด้วยวิธีการแบบเดิม ๆ เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร

อ้างอิงจากการรายงานของ CryptoSiam หน่วยข่าวกรองทางการเงินของเม็กซิโกได้เผยแพร่ผลการประเมินความเสี่ยงแห่งชาติครั้งที่สองของการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย โดยภายในรายงานดังกล่าวของพวกเขานั้นชี้ให้เห็นว่าภาคธนาคารทั่วไปนั้นมีความเสี่ยงจากการละเมิดกฎหมายด้วยการฟอกเงินเหนือกว่าปัญหาที่ถูกพบเจอในบริษัทด้าน Fintech แต่นี่ก็ใช่ว่า Crypto นั้นจะไม่มีความเสี่ยง เพราะจากข้อมูลที่ผ่าน ๆ มา ทาง Lazarus กลุ่มแฮกเกอร์สุดเลื่องชื่อก็ได้รับทรัพย์ไปหลายแล้วเหมือนกัน

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
อัยการยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้เพิ่มโทษจำคุก อดีตซีอีโอ Binance เป็น 36 เดือน
นักวิเคราะห์ดัง เผย! ความสำคัญของ Bitcoin ต่อตลาดคริปโต อาจลดลงในอนาคต
กองทุน Bitcoin ETF ของ 'BlackRock' ไม่มีเงินลงทุนไหลเข้ามาเป็นครั้งแรก