ราคา Ether กลับมาแตะจุดสูงสุดขณะที่ค่าธรรมเนียมก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ราคา Ether หวนกลับมาแตะจุดสูงสุดที่เคยทำที่ 2,000 ดอลลาร์ในขณะที่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมก็เพิ่มอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง
ราคา Ether หวนกลับมาแตะจุดสูงสุดที่เคยทำที่ 2,000 ดอลลาร์ในขณะที่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมก็เพิ่มอย่างไม่มีอะไรฉุดรั้ง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ราคา Ethereum กลับมาทะยานแตะที่จุดสูงสุดที่เคยทำไว้ที่ 2,000 ดอลลาร์ (62,560 บาท) อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าภาระค่าธรรมเนียมของผู้ใช้จะยังคงหนักอึ้งเหมือนเดิม
ค่าธรรมเนียม Ethereum เพิ่มขึ้นเกือบ 77%
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 77% ในขณะที่ราคาของ Ethereum นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 31%
ช่วง 9 วันที่ผ่านมาราคา Ethereum ปรับระดับขึ้นจากอยู่ที่ $1,530 (47,858.40 บาท) เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2021 ที่ผ่านมาก็เพิ่มมาสู่ที่ $2,000 (ประมาณ 62,560.00 บาท) ในเวลาที่เขียนบทความนี้ อ้างอิงจาก CoinGecko
ส่วนค่าธรรมเนียมของ Etheruem นั้นเพิ่มสูงขึ้นกว่า 77% ในช่วงเวลาเดียวกัน จากค่าธรรมเนียมอยู่ที่ประมาณ $12.96 (405.39 บาท) ก็มาสู่ที่ $22.97 (718.50 บาท) อ้างอิงข้อมูลจาก Bitinfocharts.com
ค่าธรรมเนียมของ Ethereum นั้นค่อนข้างสูงมากจนผู้ใช้งานหลาย ๆ คนก็มีการพูดถึงประเด็นนี้ การอัพเกรดเครือข่าย Ethereum 2.0 ก็หวังที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปของ Ethereum
การอัพเกรดระบบของ Ethereum นั้นรวมไปถึงสิ่งที่เรียกว่า EIP-1559 ซึ่งเป็นตัวข้อเสนอปรับปรุงเครือข่าย Ethereum ที่จะเข้ามายกเครื่องเรื่องการคิดค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Ethereum ใหม่ทั้งหมด การอัพเกรดดังกล่าวนี้จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่จะถึง
อัพเกรด Ethereum 2.0 ช่วยแก้ปัญหาได้ไหม?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าข้อเสนอการปรับปรุงเครือข่ายของ Ethereum 2.0 ที่เรียกว่า EIP-1559 นั้นจะเข้ามาปฏิรูปการคิดคำนวณค่าธรรมเนียมบนเครือข่ายใหม่ทั้งหมด
นอกจากนี้การอัพเกรดเครือข่ายเป็น Ethereum 2.0 ยังมีกลไกเพื่อทำให้เศรษฐกิจโทเค็นบนเครือข่ายคงอัตราเงินฝืดเอาไว้ โดยการที่ส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายจะมีการปรับเปลี่ยนอัตโนมัติตามอัลกอริทึม ค่าธรรมเนียมบางส่วนบนเครือข่ายจะถูกล้างค่าหลังจากมีการทำธุรกรรมแต่ละอัน
เมื่อ Ethereum 2.0 ถูกนำมาใช้งานแล้วในระยะยาว Ethereum วางแผนที่จะเลิกใช้อัลกอริทึมแบบ Proof-of-Work (PoS) ไปโดยสิ้นเชิงและใช้ Proof-of-Stake (PoS) ที่ให้ผู้ใช้วางเหรียญ Ethereum เป็นเงินประกันช่วยตรวจสอบความปลอดภัยบนเครือข่ายแทน