Cathie Wood ชี้ Crypto ETF ยังไม่หมดเสน่ห์ แม้การใช้งานกระเป๋าคริปโตจะเติบโตในอนาคต

Cathie Wood ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ARK Invest มองว่า กองทุน ETF ที่ลงทุนในคริปโตจะยังคงมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจต่อไป แม้ว่าการใช้งานกระเป๋าคริปโต (Wallet) จะขยายตัวอย่างมากในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล

“ฉันคิดว่า ETF เป็นเหมือนสะพานสำคัญ เพราะการใช้งาน Wallet สำหรับผู้ใช้งานจะยังดูซับซ้อนและมีกำแพงสูง หลายคนแค่อยากกดปุ่มแล้วลงทุนได้เลย” Wood กล่าวในงาน Solana Accelerate ที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม

แม้จะยอมรับว่า Wallet มีความสำคัญในฐานะ “หลักประกัน” หากระบบการเงินดั้งเดิมเกิดปัญหา แต่เธอยังเชื่อว่า ETF จะยังไม่เสื่อมความนิยมลงง่าย ๆ สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย “ETF สำหรับคนที่ต้องการความสะดวก ฉันคิดว่ายังจะมีเสน่ห์อยู่มาก และจะกลายเป็นทางผ่านไปสู่การใช้งาน Wallet ในอนาคต”

ข้อมูลจาก Bitbo ระบุว่าขณะนี้มีผู้ใช้งานกระเป๋า Bitcoin ทั่วโลกประมาณ 200 ล้านราย ขณะที่ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 พฤษภาคม มีเงินไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ สูงถึง 2.75 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับการที่ Bitcoin ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ที่ 111,970 ดอลลาร์ในวันที่ 22 พฤษภาคม

นับตั้งแต่กองทุน Spot Bitcoin ETF เริ่มเปิดให้ซื้อขายในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2024 มีเงินทุนไหลเข้าแล้วประมาณ 4.449 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ Spot Ether ETF ที่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2024 มีเงินไหลเข้าราว 2.77 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง Wood มองว่า “ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่หลายคนคาด” เนื่องจากสำนักงาน SEC สหรัฐฯ ยังไม่อนุญาตให้มีฟีเจอร์ Staking ในกองทุน Ether ETF โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม SEC เพิ่งประกาศเลื่อนการตัดสินใจในเรื่องนี้สำหรับคำขอของ Bitwise

อย่างไรก็ตาม Wood ยังคงมองว่า Ether เป็นประตูสำคัญสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการทำความเข้าใจโลกของสมาร์ตคอนแทรกต์ ก่อนจะขยายไปยังเหรียญอื่น ๆ เช่น Solana “หลายคนอาจเริ่มจาก Ether แล้วเมื่อศึกษามากขึ้น เข้าใจเทคโนโลยี ติดตามนักพัฒนา และเห็นการนำไปใช้จริง พวกเขาจะค่อย ๆ ไปต่อในโลกของคริปโต”

เธอยังชี้ว่าการที่ Memecoin ของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งมีชื่อว่า Official Trump (TRUMP) เปิดตัวบนเครือข่าย Solana เมื่อเดือนมกราคม และราคาร่วงลงกว่า 50% ในเวลาไม่กี่วันหลังไม่มีนโยบายเกี่ยวกับคริปโตออกมา อาจทำให้นักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เกิดความลังเลที่จะลงทุนใน Solana “ฉันคิดว่าเหตุการณ์แบบนั้นอาจทำให้คนกลุ่มนั้นรู้สึกไม่มั่นใจ” เธอกล่าวในช่วงตอบคำถามของ Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF ที่ตั้งข้อสังเกตว่า Bitcoin สามารถอธิบายให้คนรุ่นเก่าเข้าใจได้ง่ายในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ แต่คริปโตอื่น ๆ อธิบายยากกว่า

สำหรับราคาเป้าหมายของ Solana นั้น Wood เผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการวิเคราะห์ และจะเปิดเผยเมื่อการวิจัยเสร็จสิ้น

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน ARK เพิ่งปรับเป้าราคาของ Bitcoin ในกรณีที่ดีที่สุด (bull case) จาก 1.5 ล้านดอลลาร์ เป็น 2.4 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2030 โดยเชื่อว่าการยอมรับจากนักลงทุนสถาบันและบทบาทของ Bitcoin ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” จะเป็นแรงผลักดันสำคัญในระยะยาว

อ้างอิง : Cointelegraph