ข่าว Bitcoin

การขุดบิทคอยน์ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนที่สุดในโลก

Bitcoin Ge2310be99 1920.jpg

สภาการขุดบิทคอยน์ ได้เผยแพร่รายงานฉบับแรกของปี 2022 เกี่ยวกับสถานะของเครือข่ายบิทคอยน์และข้อโต้เถียงเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ BTC ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ได้ใช้พลังงานมากที่คิดไว้

สภาการขุดบิทคอยน์ ได้เผยแพร่รายงานฉบับแรกของปี 2022 เกี่ยวกับสถานะของเครือข่ายบิทคอยน์และข้อโต้เถียงเกี่ยวกับการใช้พลังงาน ซึ่งผู้ที่ตอบแบบสำรวจนี้คิดเป็น 50% ของเครือข่าย BTC เลยทีเดียว

แบบสำรวจนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2021 โดยเป็นแบบสำรวจโดยสมัครใจของบริษัทขุดบิทคอยน์รายใหญ่ระดับโลกและ MicroStrategy องค์กรนี้ได้เผยแพร่ข้อมูลที่เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับที่สื่อกระแสหลักนำเสนอออกมา

ผลการสำรวจในปีนี้ระบุว่า บริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจได้ใช้พลังงานไฟฟ้า 64.6% โดยมีการผสมผสานพลังงานที่ยั่งยืน จากการสำรวจนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบเป็นรายปีในส่วนของการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ยั่งยืนของสกุลเงินดิจิทัลนี้ ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมนี้ “เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนที่สุดในโลก”

ในขณะที่เครือข่าย BTC ขยายตัวอย่างรวดเร็วและด้วยการปรับปรุงทางเทคโนโลยีเพื่อการไปใช้เครือข่ายก็ได้มีความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลง ซึ่งลดลง 25% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ตามที่องค์กรได้ค้นพบข้อมูลจากการสำรวจ เครือข่ายบิทคอยน์ได้แสดงถึงปริมาณการใช้พลังงานทั่วโลกอยู่ที่ 1154,750 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง (TWh) และการขุด BTC เพียงอย่างเดียวมีการใช้พลังงานอยู่ที่ 247 TWh

Michael Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy ได้เผยในผลจากการสำรวจและอ้างว่า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการขุด BTC นั้นใช้พลังงานน้อยกว่า 0.1% ของการใช้พลังงานทั่วโลก โดยปล่อยคาร์บอนที่มีขนาดเล็กลงด้วย 8 bps

เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ พลังงาน 247 TWh ของอุตสาหกรรมการขุด BTC ในตอนนี้ ดูจะน้อยกว่าที่เคยใช้ในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวก็ใช้พลังงานไปมากกว่า 70,000 TWh แล้ว

Saylor กล่าวว่า:

นักวิจารณ์คงจะกล่าวว่า การใช้พลังงานจากการขุด BTC นั้นมากกว่าการใช้พลังงานประเทศ B เสียอีก แต่พวกเขาก็มักจะเลือกเปรียบกับประเทศที่ใช้พลังงานเพียงแค่ 10% ของการใช้พลังงานทั่วโลกเท่านั้น เพื่อให้ฟังดูเหมือนว่าการขุดต้องใช้พลังงานมาก

บิทคอยน์นั้นมีความยั่งยืนมากกว่าประเทศโดยส่วนใหญ่

ข้อมูลเพิ่มเติมจากสภาการขุด BTC ระบุว่าภาคส่วนนี้มีความยั่งยืนในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังที่แสดงด้านล่าง โดยการขุด BTC ในตอนนี้มีความยั่งยืนที่มากกว่า โดยวัดจาก power mix ซึ่งถือว่ามากกว่าสหภาพยุโรป (EU) สหรัฐอเมริกา และเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ เสียอีก

Saylor ได้ยืนยันว่าการขุด BTC นั้นยั่งยืนกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างมาก โดย ในภาคการก่อสร้าง การเงิน และการประกันภัยบริโภคนั้นใช้พลังงานประมาณ 9,000 TWh ในอุตสาหกรรมการบินใช้พลังงานประมาณ 4,000 TWh และกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร หรือ MIC ใช้พลังงานประมาณ 7,000 TWh

แม้จะมีข้อมูลการสำรวจนี้ แต่การขุด BTC ก็ยังคงถูกนักการเมือง หน่วยงานกำกับดูแล ทั้งหลายรวมไปถึงสื่อกระแสหลักโจมตีเรื่องพลังงานต่อไป โดยข้อมูลนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการใช้พลังงานด้วย และอาจเกี่ยวข้องกับความสามารถของเครือข่ายในการคงความเป็นอิสระจากผู้ดำเนินการจากส่วนกลางได้มากขึ้น 

Saylor กล่าวว่า:

ในไตรมาสแรกของปี 2022 อัตราแฮชและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องของเครือข่ายบิทคอยน์ ถือว่าเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การใช้พลังงานนั้นลดลง 25% โดยเราจะสังเกตเห็นว่ามันมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบเป็นรายปี อันเนื่องมาจากเหตุผลหลายประการ เช่น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการขุดในอเมริกาเหนือ การอพยพของนักขุดจากจีน และการนำพลังงานที่ยั่งยืนมาใช้ทั่วโลก

โดยในขณะที่เขียน ราคาของ BTC ก็มีการซื้อขายอยู่ที่ 38,445 ดอลลาร์ โดยลดลง 1.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinGecko

​​DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ 

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin อาจราคาพุ่งก่อนปรับฐาน หากสหรัฐฯ อนุมัติกองทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ
ผู้ร่วมก่อตั้ง Axelar เผย! การมาถึงของ RLUSD Stablecoin จะช่วยผลักดันความต้องการ XRP อย่างมีนัยสำคัญ
Binance ดึงดูดเงินฝากทะลุ 24 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 จากฐานผู้ใช้ 250 ล้านคนทั่วโลก!
MicroStrategy ส่งสัญญาณการซื้อ Bitcoin! ที่มีราคาเข้าเฉลี่ยมากกว่า 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก