กองทุน ETF สหรัฐฯ เทขาย Bitcoin และ Ether มูลค่ารวม $755 ล้าน หลังตลาดคริปโตเผชิญแรงเทขายหนัก
กองทุน Bitcoin และ Ether ETF ในสหรัฐฯ เผชิญกระแสเงินไหลออกกว่า $755 ล้านในวันจันทร์นี้ หลังเกิดการล้างพอร์ตมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์กว่า $20,000 ล้านช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

กองทุน Bitcoin และ Ether ETF ในสหรัฐฯ เผชิญกระแสเงินไหลออกกว่า $755 ล้านในวันจันทร์นี้ หลังเกิดการล้างพอร์ตมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์กว่า $20,000 ล้านช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก SoSoValue ระบุว่า กองทุน Spot Bitcoin ETF มีเงินไหลออกสุทธิรวม $326.52 ล้าน โดยกองทุน Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) มีเงินไหลออกมากที่สุดที่ $93.28 ล้าน ตามด้วย Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ที่ $145.39 ล้าน ขณะที่ Ark 21Shares Bitcoin ETF (ARKB) และ Bitwise Bitcoin ETF (BITB) มีเงินไหลออก $21.12 ล้าน และ $115.64 ล้าน ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม BlackRock iShares Bitcoin Trust (IBIT) ยังคงมีเงินไหลเข้า $60.36 ล้าน ส่งผลให้ยอดการไหลเข้าสะสมสุทธิของกองทุน Bitcoin ETF ทั้งหมดอยู่ที่ $6.244 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีมูลค่าสินทรัพย์รวม $1.5718 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นราว 6.8% ของมูลค่าตลาดรวมของ Bitcoin
Ether ETFs ถูกเทขายหนักกว่า $428 ล้าน
ฝั่ง Ether ETF ก็เผชิญแรงขายไม่แพ้กัน โดยมียอดเงินไหลออกสุทธิรวม $428.52 ล้าน นำโดยกองทุน BlackRock iShares Ethereum Trust (ETHA) ที่มีการไหลออกสูงสุดถึง $310.13 ล้าน ตามด้วย Grayscale Ethereum Trust (ETHE) ที่ $20.99 ล้าน และ Fidelity Ethereum Fund (FETH) ที่ $19.12 ล้าน
กองทุน ETHA ยังคงเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยสินทรัพย์สุทธิรวม $1.702 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีส่วนแบ่งตลาดราว 3.29% โดยมีปริมาณการซื้อขายรวมตลอดทั้งวันอยู่ที่ $2.82 พันล้านดอลลาร์
แรงเทขายในตลาด ETF เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดคริปโตเผชิญ การล้างพอร์ตมูลค่ากว่า $20,000 ล้านในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นผลจากการประกาศของประธานาธิบดี Trump ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 100% เพื่อตอบโต้ข้อจำกัดการส่งออกแร่หายากของจีน
ปัจจุบัน บริษัทจดทะเบียนและกองทุน ETF ถือครอง Bitcoin รวมกันราว 12.2% ของอุปทานทั้งหมดในระบบ สะท้อนถึงการสะสมสินทรัพย์ของสถาบันอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2025
นักลงทุนระมัดระวัง รอความชัดเจนจากตลาด
Vincent Liu ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัท Kronos Research จากไต้หวัน กล่าวว่า การไหลออกของเงินทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุนหลังการล้างพอร์ตครั้งใหญ่
“นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกยืนรออยู่ข้างสนาม รอดูทิศทางเศรษฐกิจมหภาคที่ชัดเจนกว่านี้ก่อนกลับเข้าตลาด” Liu กล่าว พร้อมเสริมว่า “ตอนนี้อารมณ์ของตลาดยังมีอิทธิพลมากกว่าปัจจัยพื้นฐานในการขับเคลื่อนราคา”
เขาระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจัยอย่างการคลี่คลายปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจเป็นตัวกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กลับมา และจุดประกายความสนใจใหม่ใน Bitcoin และ Ether ETF อีกครั้ง
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว