บริษัทสหรัฐกว่า 200 แห่งเจอไวรัสเรียกค่าไถ่บิทคอยน์
REvil กลุ่มแฮกเกอร์ของประเทศรัสเซียได้ทำการปล่อยไวรัสเรียกค่าไถ่หรือ ransomware คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า $70 ล้านในเหรียญบิทคอยน์ โดยที่มีบริษัทของสหรัฐอเมริกากว่า 200 แห่งได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้

REvil กลุ่มแฮกเกอร์ของประเทศรัสเซียได้ทำการปล่อยไวรัสเรียกค่าไถ่หรือ ransomware คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า $70 ล้านในเหรียญบิทคอยน์ โดยที่มีบริษัทของสหรัฐอเมริกากว่า 200 แห่งได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้
REvil กลุ่มแฮกเกอร์ของประเทศรัสเซียได้ทำการปล่อยไวรัสเรียกค่าไถ่หรือ ransomware คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า $70 ล้านในเหรียญบิทคอยน์ โดยที่มีบริษัทของสหรัฐอเมริกากว่า 200 แห่งได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้
รายงานของ ABC News ของประเทศออสเตรเลียได้รายงานว่า กลุ่ม REvil ได้มีเป้าหมายเจาะซอฟต์แวร์ Kaseya และใช้ตรงนี้เป็นฐานการจัดการเครือข่ายในการแพร่กระจายไวรัสเรียกค่าไถ่ผ่านระบบคลาวด์
ซึ่งผู้ใช้เครื่องมากกว่า 1 ล้านเครื่องได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เครื่องของพวกเขาเจอไวรัส สอดคล้องกับรายงานหลายแห่ง
วัตถุประสงค์กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียตอนนี้กำลังต้องการเหรียญบิทคอยน์ที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง ซึ่งบริษัทหลายแห่งเจอกับการโจมตีไวรัสจำนวนมาก
ในช่วงเดือนพฤษภาคม กลุ่ม REvil ได้ทำการโจมตีบริษัทท่อส่งน้ำมันอย่าง Colonia Pipeline และทำให้บริษัทต้องจ่ายเงินค่าไถ่เป็นจำนวน $5 ล้านหลังจากที่ระบบไม่สามารถใช้งานได้
เช่นเดียวกับบริษัท JBS Holding บริษัทขายเนื้อสัตว์ยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกก็ต้องยอมจำนนด้วยการจ่ายเงินค่าไถ่ไปกว่า $11 ล้านของวันที่ 30 เดือนพฤษภาคมให้กับกลุ่ม REvil
เหตุการณ์นี้ทำให้โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐไม่อาจนิ่งเฉยได้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ข่าวกรองทำการสืบสวนเรื่องดังกล่าว โดยไบเดนคาดว่า รัสเซียอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว