Blockchain

เพลง NFT คืออะไร? สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรีแบบดั้งเดิมได้อย่างไร?

Creating Music.jpg

วันนี้คริปโตสยามจะพาไปดูว่าเพลง NFT คืออะไร ทำงานอย่างไร และสามารถสนับสนุนนักดนตรีทั่วโลกได้อย่างไร

นักร้องและนักดนตรีมักจะเผชิญกับความท้าทายในการสร้างสรรค์และจำหน่ายเพลงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านลิขสิทธิ์ การแสวงประโยชน์ หรือการไม่มีค่าลิขสิทธิ์ แต่การเกิดขึ้นของดนตรีแบบ non-fungible tokens อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพลงให้ดีขึ้นได้

วันนี้คริปโตสยามจะพาไปดูว่าเพลง NFT คืออะไร ทำงานอย่างไร และสามารถส่งเสริมนักดนตรีทั่วโลกได้อย่างไร

ปัญหาของอุตสาหกรรมดนตรีแบบดั้งเดิม

NFT เป็นทางเลือกที่ดีกว่าระบบของค่ายเพลงรายใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน บริษัทดนตรีขนาดใหญ่ครองวงการเพลงมาอย่างยาวนาน เนื่องจากพวกเขาได้ให้ทรัพยากรแก่ศิลปินในการเริ่มต้นอาชีพการงาน แต่เพื่อแลกกับสิ่งนี้ พวกเขามักจะใช้ประโยชน์ เช่น ควบคุมบางอย่าง เพื่อให้พวกเขาเป็นเจ้าของเพลงตลอดไป

Taylor Swift นักร้องดังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้รับการปฏิบัติจากค่ายเพลงอย่างไม่เป็นธรรม เธอได้บันทึกเพลงของเธอใหม่ทั้งหมด เนื่องจากค่ายเพลงไม่ได้มอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของให้กับเธออย่างเต็มที่

Justin Blau ดีเจอิเล็กทรอนิกส์และผู้ก่อตั้งอธิบายว่า "แฟนตัวจริงอาจต้องการเป็นเจ้าของอะไรบางอย่างมากกว่าการเป็นนักเก็งกำไร และการทำให้เป็นดนตรีมีความเป็นประชาธิปไตยในการเข้าถึงสินทรัพย์เป็นส่วนสำคัญในอนาคตของคริปโต”

เพลง NFT คืออะไร?

ปี 2021 เป็นปีแห่ง Non-fungible token โดยมีกรณีการใช้งานหลายอย่างปรากฏขึ้นนอกเหนือจากศิลปะและของสะสม เพลง NFT ก็เป็นหนึ่งในนั้น

โทเค็น Non-fungible token หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า “NFT” เป็นคริปโตเคอร์เรนซี่ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ และมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่สามารถทดแทนได้ ปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้วงการศิลปะไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพกราฟฟิค วีดีโอและเพลง กล่าวได้ว่า NFT เป็นวิธีสากลสำหรับครีเอเตอร์ในการเป็นเจ้าของ ควบคุม และได้รับประโยชน์จากการสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขา 

เมื่อสร้าง NFT แล้ว โทเค็นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือทำซ้ำได้ ยิ่งไปกว่านั้น NFT ยังช่วยให้สามารถจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับผู้สร้างได้ ซึ่งทำให้เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับนักดนตรี

เพลง NFT คือแทร็กเพลงที่ถูกบันทึกลงบนบล็อคเชนในรูปแบบของโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นของเจ้าของ NFT เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับ mp3 ตรงที่ mp3 คือการที่คุณดาวน์โหลดเพลงลงในสมาร์ทโฟนของคุณ แต่เพลง NFT สามารถขายได้และให้นักดนตรีได้รับค่าลิขสิทธิ์จากการขายในตลาดรองทุกครั้ง

ดนตรี NFT ทำงานอย่างไร?

เมื่อพูดถึงวงการเพลง ดนตรี NFT มีรูปแบบต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลงแบบไฟล์เสียงหรือวิดีโอ ปกอัลบั้ม ตั๋วคอนเสิร์ต และสินค้าพร้อมลายเซ็น เป็นต้น

ในการผลิตหรือการขายเพลง หลักการของ NFT ยังคงเหมือนเดิมกับ NFT ประเภทอื่นๆ นักดนตรีหรือวงดนตรีจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะขายอะไรให้แฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เสียง ตั๋วคอนเสิร์ต หรือสินค้า จากนั้นพวกเขาจะระบุว่าบล็อกเชนใดที่จะสร้าง NFT หรือแพลตฟอร์มดรตรี NFT ที่จะใช้ แพลตฟอร์มดนตรี NFT ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ NFT TONE, Opulous, OpenSea และอื่นๆ

หลังจากที่ระบุแพลตฟอร์มที่เลือกแล้ว พวกเขาจะแจ้งให้แฟนๆ ทราบถึงการเปิดตัว NFT ที่ปล่อย และขายโทเค็นเหล่านั้นตามมูลค่าที่พวกเขาต้องการ

เนื่องจากเพลง NFT ไม่สามารถดัดแปลงหรือทำซ้ำได้ (เช่นเดียวกับ NFT อื่นๆ ทั้งหมด) พวกเขาจึงอาจตัดสินใจว่าจะมีการขายแบบครั้งเดียวในไฟล์เสียง โดยที่ผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นเจ้าของไฟล์เสียงต้นฉบับ (แต่ไม่ใช่ลิขสิทธิ์) หรือ พวกเขาอาจจะตัดสินใจสร้าง NFT ในไฟล์เสียงเดียวกันในจำนวนที่จำกัด เช่น 10,000 ไฟล์แล้วนำไปขายในตลาดเพลง NFT

แฟน ๆ ทุกคนที่ซื้อเพลง NFT จะกลายเป็นเจ้าของผลงานนักดนตรีที่พวกเขาชื่นชอบ จากนั้นพวกเขาสามารถเก็บเพลง NFT ไว้ในกระเป๋าคริปโตดิจิตอลของพวกเขาได้ และหากพวกเขาต้องการขายก็สามารถขาย NFT ให้กับผู้เสนอราคาที่สูงขึ้นได้ในอนาคต แม้จะเป็นเจ้าของ NFT ที่ไม่เหมือนใครและสามารถขายได้ แต่นักดนตรีที่สร้าง NFT ก็สามารถสร้างรายได้จากการขายผลงานซ้ำของงานของพวกเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังที่สุดที่ NFT ดนตรีสามารถส่งเสริมนักดนตรีได้

นักดนตรีและวงดนตรีหลายวงได้รับประโยชน์จากดนตรี NFT แล้ว ตัวอย่างเช่น Dj 3LAU มี NFT ที่เรียกว่า Ultraviolet Collection ซึ่งมียอดขายสถิติทั่วโลกมากกว่า 11.6 ล้านดอลลาห์สหรัฐ นี่มาจากการประมูลครั้งเดียวด้วยโทเค็นที่เป็นเอกลักษณ์ 33 รายการ นอกจากนี้ นักดนตรีชาวแคนาดา Grimes ได้ขายงานศิลปะดิจิทัลในคอลเล็กชันชื่อ WarNymph ซึ่งทำเงินได้ประมาณ 6 ล้านดอลลาห์สหรัฐในต้นปี 2021 อีกด้วย

NFTs สามารถส่งเสริมนักดนตรีได้อย่างไร

นอกเหนือจากการหารายได้จากการขายเพลง NFT แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ NFT สามารถส่งเสริมนักดนตรีได้

รายได้จากค่าลิขสิทธิ์

นักดนตรีที่สร้าง NFT และขายจะได้รับรายได้จากการขาย NFT ในภายหลัง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาของนักดนตรีที่ไม่มีรายได้จากการขายผลงาน หรือรายได้เพียงเล็กน้อยจากบริการสตรีมมิ่งแบบรวมศูนย์

ตัดพ่อค้าคนกลาง

หนึ่งในความท้าทายหลักที่นักดนตรีต้องเผชิญคือ พวกเขามักจะอยู่ภายใต้สัญญากับค่ายเพลง ในอีกทางหนึ่ง วิธีที่นักดนตรีอิสระส่วนใหญ่ทำคือ การหารายได้ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การใช้เพลง NFT ช่วยให้นักดนตรีได้รับรายได้จากการขายเพลงหรือสินค้าโดยการขายตรงให้แฟนๆ

การสร้างฐานแฟนคลับที่กระตือรือร้น

เพลง NFT ช่วยให้นักดนตรีสร้างฐานแฟนคลับ โดยการสร้างพื้นที่ที่แฟนๆ สามารถเข้าถึง NFT เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับผลงานของศิลปินได้ ตัวอย่างเช่น NFT airdrops ช่วยให้นักดนตรีเข้าถึงผู้ชมที่พวกเขาไม่เคยเข้าถึงมาก่อน

นอกจากนี้ นักดนตรียังสามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของแฟนๆ ที่ไม่เหมือนใคร เช่น เปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้พบปะกับพวกเขาแบบเสมือนจริง หรือแบบตัวต่อตัว ศึ่งก่อนหน้านี้นักดนตรีอย่าง Snoop Dogg ประสบความสำเร็จในการจัดแฮงเอาท์ SandBox ของเขา เช่นเดียวกับ Post Malone ที่ขาย NFTs ให้กับผู้คนเล่นเบียร์ปองกับเขา

ให้โอกาสศิลปินหน้าใหม่

วงการเพลง NFT เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักดนตรีหน้าใหม่ เพราะไม่มีใครขัดขวางไม่ให้พวกเขาปล่อยเพลงใหม่ หรือคาดหวังว่าพวกเขาจะยอมรับข้อตกลด้วย เนื่องจากเพลง NFT นั้น สิ่งที่นักดนตรีทุกคนต้องทำคือ สร้างเพลงของตนบนแพลตฟอร์มที่ตนเลือก และทำการตลาดของตนกับฐานแฟนๆ

ปัจจุบัน มีนักดนตรีเพียงไม่กี่คนที่กำลังสำรวจพื้นที่ดนตรี NFT อย่างไรก็ตาม ด้วยความนิยมและการยอมรับจากแฟน ๆ ที่เพิ่มขึ้น โอกาสสำหรับศิลปินที่จะได้รับประโยชน์จากการขายเพลง NFT ก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
98% ของธนาคารกลางทั่วโลก กำลังเตรียมใช้ CBDC
ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS