Exchange

จัดอันดับ 7 สุดยอดกระเป๋าคริปโตแบบ Non-Custodial

Business G4404c2501 1920.jpg

วันนี้คริปโตสยามได้จัดอันดับกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ Non-Custodial ที่ดีที่สุด 7 อันดับแรกในปี 2022 จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

การจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญสำคัญไม่แพ้การลงทุนคริปโต และกระเป๋าเงินแบบที่ไม่ใช่การรับฝากทรัพย์สิน หรือ Non-Custodial wallets กำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากการเงินแบบกระจายอำนาจยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง

Non-custodial wallets คือกระเป๋าเงินดิจิทัลที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนได้อย่างเต็มที่ ด้วยชื่อ ของคุณเอง หรือก็คือกระเป๋าเงินนั้นไม่ได้มีอำนาจเข้าถึงเพื่อควบคุมดูแลคริปโตของคุณ แต่ทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ยังช่วยให้คุณสามารถเข้าร่วมระบบกับบุคคลที่สามได้

ข้อแตกต่างที่สำคัญของกระเป๋าคริปโตแบบ custodia และแบบ non-custodia อย่างแรกก็คือเรื่องความเป็นเจ้าของ โดยมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน custodia เป็นบริษัทที่ให้บริการในการรับฝากและการรักษาคริปโตของคุณ ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์มักจะมีผู้รับฝากสินทรัพย์อยู่ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะเป็นคนเก็บคริปโตของคุณไว้ให้กับคุณ และคุณจะไม่ได้เป็นคนถือ private keys

หนึ่งในคำพูดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเก็บรักษาคริปโตคือ "ไม่ใช่กุญแจของคุณก็ไม่ใช่บิทคอยน์ของคุณ” (Not your key, not your coins)

กระเป๋าคริปโตแบบ non-custodia ช่วยให้คุณสามารถรักษาความเป็นเจ้าของทรัพย์สินของคุณได้อย่างเต็มที่ และคุณจะเป็นคนเดียวที่สามารถจัดเก็บ private keys ของคุณได้ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้มาพร้อมกับความเสี่ยง หากคุณเลือกใช้กระเป๋าเงินแบบ non-custodia คุณจะต้องรับผิดชอบในการปกป้องดูแล private keys ของคุณเองแต่เพียงผู้เดียว หากคุณทำ private keys หายไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม แสดงว่าคุณได้สูญเสียการเข้าถึงเงินของคุณไปแล้ว และผู้ให้บริการกระเป๋าเงินก็ไม่สามารถช่วยคุณกู้คืนมาได้

กระเป๋าคริปโตแบบ non-custodia นั้นไม่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ไม่สามารถจัดการความรับผิดชอบในการจัดเก็บและปกป้อง private keys ของตน ได้

วันนี้คริปโตสยามได้จัดอันดับกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ Non-Custodial ที่ดีที่สุด 7 อันดับแรกในปี 2022 จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

MetaMask

MetaMask เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านกระเป๋าเงินดิจิทัลที่อยู่ในรูปแบบของส่วนขยายเบราว์เซอร์ และได้เปิดตัวในปี 2016 โดย ConsenSys หรือบริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนชั้นนำของตลาด และตั้งแต่นั้นมาก็ได้กลายเป็นกระเป๋าเงิน Non-custodial ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนใหญ่คงเพราะว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกเดียวที่มีในช่วงที่ DeFi เฟื่องฟูที่สุดในฤดูร้อนปี 2020 ซึ่งต่อมาก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อ DeFi summer และในปีที่ผ่านมา การใช้งานหลัก ๆ อย่างหนึ่งของ MetaMask คือการผสานรวมเข้ากับตลาดยอดนิยมอย่าง OpenSea สำหรับการซื้อและขาย NFT

MetaMask เปิดให้ผู้ใช้สามารถใช้โทเค็นที่ใช้โปรโตคอล ERC-20 ได้ แล้วยังสามารถรวมเข้ากับการทำงานบนเครือข่าย EVM อื่น ๆ เช่น BNB Chain, Polygon, Optimism และ Arbitrum นอกจากนี้ กระเป๋าเงินคริปโตนี้ยังทำหน้าที่เป็นส่วนขยายของเบราว์เซอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับแอพกระจายอำนาจ (dApps) ที่สร้างบน Ethereum และเครือข่ายอื่น ๆ ที่เข้ากันได้กับ EVM อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ swap ภายในกระเป๋า ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นหนึ่งไปยังอีกโทเค็นหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเข้าถึงการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX)

MetaMask ไม่มีความเป็นเจ้าของในกระเป๋าเงินนั้นหรือการดูแล seed phrase และ private keys ของคุณโดยเด็ดขาด โดยได้มอบอำนาจโดยสมบูรณ์ในทรัพย์สินให้กับคุณ

ข้อเสียของ MetaMask คือให้การสนับสนุนเฉพาะบล็อกเชน Ethereum และเครือข่ายที่สร้างขึ้นโดยใช้ Ethereum Virtual Machine (EVM) ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้ MetaMask เพื่อจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เช่น Bitcoin (BTC) และ Solana (SOL)

Coinbase Wallet

Coinbase Wallet ถูกสร้างขึ้นโดย Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำในสหรัฐอเมริกา และได้เติบโตอย่างรวดเร็วจนเป็นกระเป๋าเงินที่ใครหลายคนก็ต้องการด้วยเหตุผลต่าง ๆ

ประการแรก Coinbase Wallet เหมาะสำหรับผู้ที่มีความคุ้นเคยและมีกระเป๋าเงินดิจิทัลอยู่แล้ว ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายมากสำหรับผู้ที่มีกระเป๋าเงินที่ดูแลด้วยตนเองอยู่แล้ว ในขณะเดียวกัน Coinbase ก็ยังมีชื่อเสียงอย่างมาก โดยมีผู้ใช้เกือบ 90 ล้านคนทั่วโลกเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรเก็บมาพิจารณา

กระเป๋าเงินนี้ได้เปิดตัวในปี 2018 และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินแบบดูแลด้วยตนเองที่ใช้งานง่ายที่สุดในตลาด

Coinbase Wallet รองรับเครือข่าย Ethereum และบล็อคเชนที่เข้ากันได้กับ EVM ทั้งหมด แล้วยังสามารถติดตั้งเป็นส่วนขยายของ Chrome ได้เช่นเดียวกับ MetaMask ซึ่งต่างจาก MM อย่างไรก็ตาม ส่วนขยาย Coinbase Wallet ยังรองรับโทเค็น Solana และ SPL อีกด้วย

Coinbase Wallet ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันมือถือที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ซึ่งสะดวก รวดเร็วและติดตั้งง่าย และนอกเหนือจากการให้ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นแล้ว แอพมือถือยังให้การสนับสนุนการถือโทเค็นหลักที่ไม่รองรับ EVM เช่น Bitcoin, Dogecoin, Litecoin, Ripple และอื่น ๆ

Coinbase Wallet ดำเนินการอย่างเป็นอิสระจากบริษัทแม่ หรือก็คือไม่ต้องลงทะเบียนใด ๆ ทั้ง KYC หรือบัญชี Coinbase หากคุณต้องการเช่นกัน โดยคุณมีตัวเลือกในการเชื่อมต่อ Coinbase Wallet ของคุณกับบัญชี Custodial ของ Coinbase ทั้งยังเปิดให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ของ Coinbase ได้ โดยมีตัวเลือกในการโอนสินทรัพย์จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว 

Trust Wallet

Trust Wallet เป็นแอปพลิเคชั่นกระเป๋าเงินคริปโตแบบ open-source และกระจายอำนาจ โดยให้ตัวเลือกมากมายแก่ผู้ใช้ ในการซื้อ ขาย และจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล

ปัจจุบัน Trust Wallet ให้การสนับสนุนบล็อคเชนมากกว่า 35 รายการและสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 160 รายการ โดยกระเป๋าเงินนี้มีคุณสมบัติในการซื้อ สลับและแลกเปลี่ยน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโตหนึ่งไปยังอีกสินทรัพย์หนึ่งได้ หรือซื้อคริปโตด้วยสกุลเงินต่าง ๆ (fiat) ได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถโต้ตอบกับ dapps บนเครือข่าย Ethereum และอีก 14 ระบบนิเวศที่เข้ากันได้กับ EVM โดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณ ไม่เพียงเท่านั้นกระเป๋าเงินนี้ยังสามารถใช้ได้ทั้งบนอุปกรณ์ iOS, Android และบนเดสก์ท็อป และที่สำคัญในเดือนกรกฎาคม 2018 Trust Wallet ได้ถูกซื้อโดย Binance หรือบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลชั้นนำ

MyEtherWallet

MyEtherWallet (MEW) เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพื้นที่ และเน้นไปที่ผู้ใช้ที่มีพื้นฐานทางเทคนิคมากกว่าปกติ โดยสามารถใช้ได้ฟรี และเป็น client-side อินเทอร์เฟซ ที่ออกแบบมา เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ด้วยเครือข่ายบล็อกเชน Ethereum นอกจากนี้ยังใช้งานได้ง่ายมาก แม้ว่าจะต้องใช้เทคนิคมากกว่าปกติเล็กน้อยเมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินอื่น ๆ

สิ่งที่ต้องพิจารณาอีกอย่างคือกระเป๋าเงินนี้เป็นแบบ open source ทั้งหมด เช่นเดียวกับกระเป๋าอื่น ๆ โดย MEW ยังรองรับเครือข่ายอื่นที่รองรับ Ethereum เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งหมายความรวมถึง Ethereum Classic (ETC), BNB Chain, Polygon และอื่น ๆ

นอกจากนี้ MEW ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสามารถในการแลกเปลี่ยน cross-chain ที่ผู้ใช้สามารถสลับระหว่าง Ether และ Bitcoin, Litecoin หรือ Dogecoin ได้ โดยทำงานร่วมกับการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ เช่น 1inch เพื่อมอบอัตราที่ดีที่สุด หากคุณตัดสินใจที่จะสลับจากอินเทอร์เฟซโดยตรง ไม่เพียงเท่านั้น MyEtherWallet ยังมีเวอร์ชันแอปกระเป๋าเงินบนเว็บอีกด้วย 

Coinomi

Coinomi เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน กระเป๋าเงินแบบ multi-currency นี้ได้เปิดตัวในปี 2014 ทำให้เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินแบบ non-custodial ที่เก่าแก่ที่สุดในตลาด โดยรองรับมากถึงประมาณ 125 เครือข่ายและสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 1,770 รายการ ซึ่งบางส่วนสามารถโอนผ่าน SegWit ได้ เพื่อทำให้การทำธุรกรรมง่ายขึ้น นอกจานี้ Coinomi ยังให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง dApps ได้โดยตรง, โครงการ Web3 หลายโครงการ, รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนภายในองค์กร และการแลกเปลี่ยนโทเค็นโดยตรง

Coinomi มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด และพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ที่หลากหลายจากระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์หลายระบบ รวมไปถึง Android, iOS, Windows, macOS และ Linux นอกจากนี้ยังมีให้บริการในแปดภาษาที่แตกต่างกัน

Exodus

Exodus เป็นกระเป๋าเงิน multi-currency แบบ non-custodial ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานบน Windows, Linux, Mac รวมไปถึงอุปกรณ์ Android และ iOS โดยกระเป๋าเงินนั้นเน้นไปที่ผู้ใช้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านคริปโตมาก่อนเป็นหลัก ดังนั้นจึงมีอินเทอร์เฟซที่ลื่นไหลและเรียนรู้ได้ง่าย

Exodus นั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บริการจัดการพอร์ตโฟลิโอและบริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ดังนั้น ผู้ใช้สามารถจัดเก็บ จัดการ และแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้จากอินเทอร์เฟซเดียว โดยรองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 130 รายการ รวมไปถึง BTC, ETH, BNB, SOL และ DOGE

คุณสมบัติอื่น ๆ ของกระเป๋าเงินนี้ คือ ทำให้ผู้ใช้สามารถทำเงินจากคริปโต ได้โดยปราศจากความเสี่ยง เมื่อผู้ใช้ทำการซื้อคริปโตด้วยคริปโต โดย Exodus จะให้เปอร์เซ็นต์ของกำไรแก่พวกเขา และรางวัลตอบแทนนั้นจะถูกส่งไปยังบัญชีผู้ใช้ของโดยตรง

BRD

ในขณะที่กระเป๋าเงินแบบ non-custodial บางส่วนเต็มไปด้วยกระบวนการ onboarding ที่กว้างขวางและมีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ซับซ้อน แต่ BRD นำเสนอความเรียบง่ายให้กับคุณ

ชื่อเดิมนั้นมีชื่อว่า BreadWallet โดยการออกแบบของ BRD นั้นเน้นให้มีการใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ นอกจากนี้ ยังมีบทช่วยสอนในตัวอีกด้วยสำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งานเกี่ยวกับคริปโต

BRD รองรับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำส่วนใหญ่ในตลาด รวมไปถึง BTC, ETH, BCH, XRP และโทเค็นมาตรฐานที่ใช้โปรโตคอล ERC-20 ทั้งหมด นอกจากนี้ยังรับชำระเงินสำหรับการซื้อ คริปโตมากกว่า 35 สกุลเงินที่แตกต่างกัน

แม้จะเน้นการนำการออกแบบที่เรียบง่ายในอินเทอร์เฟซ แต่มาตรการความปลอดภัยของ BRD ก็เรียกได้ว่ามากกว่าความเรียบง่าย เพราะมันใช้คุณสมบัติความปลอดภัยขั้นสูงมากมายในการปกป้องทรัพย์สินของผู้ใช้และข้อมูลส่วนตัว

นอกเหนือจากคุณสมบัติ non-custodial ซึ่งอนุญาตให้เจ้าของกระเป๋าเงินเท่านั้นที่สามารถควบคุมเงินของตนได้
BRD ก็ยังใช้การตรวจสอบการชำระเงินแบบ Simplified Payment Verification (SPV) 

โดย SPV จะเชื่อมต่อกับผู้ใช้โดยตรงกับเครือข่ายบิทคอยน์ เพื่อปรับปรุงความเร็วในการทำธุรกรรมและเพิ่มความปลอดภัยเนื่องจากไม่มีเซิร์ฟเวอร์ให้แฮ็ค

กระเป๋าเงินนี้มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่โดดเด่นอื่น ๆ อีก อย่างการเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ AES รหัสแบบลายเซ็น Touch ID และ PIN 6 หลักเพื่อความปลอดภัยเป็นพิเศษสำหรับคุณ

กระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ Non-Custodial ที่ดีที่สุดสำหรับคุณคืออะไร?

การเลือกกระเป๋าเงินคริปโตแบบ non-custodial ที่ดีที่สุด และเหมาะกับคุณอาจเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อพิจารณาจากตัวเลือกมากมายที่มี ก็ควรพิจารณาปัจจัยบางประการก่อนตัดสินใจเลือกว่ากระเป๋าเงินใดเหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการและระดับประสบการณ์ของคุณ

โดยให้คุณตั้งคำถามกับตนเองว่า คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นมือใหม่ในด้านคริปโต? คุณต้องการกระเป๋าเงินที่สามารถสลับภายในกระเป๋าและเบราว์เซอร์ dapp ได้หรือไม่? คุณต้องการกระเป๋าเงินที่ทำงานได้ดีที่สุดบนมือถือ เดสก์ท็อป หรือทั้งสองอย่าง? คุณต้องการจัดเก็บและลงทุนสกุลเงินดิจิทัลประเภทใด?

คำตอบสำหรับคำถามข้างต้นจะช่วยให้คุณเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้มากที่สุด โปรดจำเอาไว้ว่า เมื่อใช้กระเป๋าเงินแบบ แบบ non-custodial คุณจะต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของเงินของคุณเอง ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะปกป้องทรัพย์สินของคุณได้ตลอดเวลา

ข้อดีและข้อเสียของกระเป๋าคริปโตแบบ Non-Custodial

กระเป๋าเงินสำหรับการดูแลด้วยตนเองนั้นมีประโยชน์มากมายที่ผู้ใช้ซึ่งเป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่รู้สึกชอบ แต่ก็ยังถือว่ามีข้อเสียเช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นข้อดีและข้อเสียที่เราได้สรุปเอาไว้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ใช้ตลอดจนพื้นฐานทางเทคนิคที่มีด้วย

ข้อดี: 

  • สามารถควบคุม private keys ของคุณได้อย่างสมบูรณ์
  • ความสามารถในการโต้ตอบกับแอปพลิเคชัน DeFi ดั้งเดิม
  • ไม่มี KYC หรือกระบวนการตรวจสอบใด ๆ

ข้อเสีย:

  • ใช้งานยากกว่ามากเมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินแบบ custodial
  • มีความเสี่ยงที่มากขึ้นในการเก็บบันทึกหรือทำ seed phrase ของคุณหายโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนของคุณได้อีก
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS
Bitkub เปิดตัว Open Beta ของ 'TSX by Astronize' โปรเจกต์เกมใหม่ล่าสุดบน Bitkub Chain