ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

ช่อง Youtube ถูกแฮ็กหลอกไลฟ์สดแจกคริปโตหวังขโมยเงิน

Nmgzvg5wsg8.jpg

Google ได้ออกมาประกาศเตือนว่าตอนนี้มีแฮ็กเกอร์ทำการแฮ็กช่องยูทูปและทำการเปลี่ยนชื่อ ไลฟ์สดแจกคริปโต ฝังมัลแวร์ผ่านคุกกี้ หลอกเอาเงินผู้ใช้งาน

ช่อง Youtube บรอดแคสต์คริปโตหลอกเอาเงินผู้ใช้

Google’s Threat Analysis Group (TAG) เผยมีการทำแคมเปญที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้คนบนช่อง Youtube ขโมยเอาเหรียญคริปโตผู้ใช้ โดยมีบัญชีบนช่องยูทูปหลายช่องที่ถูกแฮ็ก รายงานเผยว่าแฮ็กเกอร์นั้นได้แฮ็กข้อมูลบัญชีดังกล่าวผ่านมัลแวร์ในรูปแบบคุกกี้เพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับเจออีกด้วย

การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ยังคงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทาง TAG ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับข่าวที่มีผู้ไม่หวังดีทำการบรอดแคสต์บน Youtube เกี่ยวกับคริปโตหวังหลอกเอาเงินผู้ใช้งาน โดยด้าน TAG ได้กล่าวว่า:

“มีช่องยูทูปหลายช่องที่ถูกสร้างชื่อใหม่เพื่อทำการไลฟ์หลอกเอาเหรียญคริปโต ความเสียหายในตอนนี้ที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ 3 ดอลลาร์สหรัฐไปจนถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นอยู่กับว่าช่องนั้น ๆ มีผู้ติดตามมากน้อยแค่ไหน”

บัญชีของช่องยูทูปก็ถูกฝังมัลแวร์ที่อยู่ในรูปแบบคุกกี้ของเว็บไซต์ด้วยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับได้ รายงานจาก TAG เผยว่าแฮ็กเกอร์เองก็ได้ทำการเปลี่ยนชื่อ, รูปโปรไฟล์และเนื้อหาบนช่องยูทูปอีกด้วยเพื่อเลียนแบบบริษัทด้านคริปโตดัง ๆ

อ้างอิงจาก Google เผยว่า “ผู้ไม่ประสงค์ดีทำการไลฟ์วีดีโอและแจกเหรียญคริปโตแลกกับเงิน” ทั้งนี้บริษัท Google ได้จัดเตรียมเครื่องมือที่ใช้ตรวจจับและบล็อกอีเมล, คุกกี้รวมถึงการไลฟ์เหรียญคริปโตที่เข้าข่ายเป็นการ scam 

ความพยายามของ Google ไม่สูญเปล่าเพราะมีรายงานว่าเมื่อมีนโยบายดังกล่าวออกมาก็ลดปัญหาเรื่องอีเมลที่มีการฟิชชิ่งหรือหลอกลวงผู้ใช้ไปได้มากถึง 99.6% นับแต่เดือนพฤษภาคม 2021 

“เราเห็นว่าแฮ็กเกอร์ได้เปลี่ยนจาก Gmail ไปยังผู้ให้บริการอีเมลรายอื่นแล้ว (ส่วนใหญ่เป็น email.cz, seznam.cz, post.cz และ aol.com)” บริษัทกล่าวเพิ่มเติม

ข้อมูลอีเมลผู้ใช้รั่วไหลจาก CoinmarketCap

นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานอีกว่าอีเมลของผู้ใช้กว่า 3.1 ล้านรายนั้นรั่วไหลจากเว็บให้ข้อมูลราคาเหรียญชื่อดังอย่าง CoinMarketCap ด้วย

ด้าน CoinmarketCap ก็รับรู้ว่ามีอีเมลผู้ใช้รั่วไหลแต่ก็ได้ประกาศว่ายังไม่ได้พบว่ามีการถูกแฮ็กเกิดขึ้น

“จากการตรวจสอบของเราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกรั่วไหล เราเชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากแหล่งอื่น ๆ ที่ผู้ใช้งานอาจใช้รหัสผ่านเดียวกันกับทุก ๆ เว็บไซต์ที่ตนใช้”

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC