ก.ล.ต. สหรัฐฯ อนุมัติ กองทุน ETF ของ Volt Equity
ท้ายที่สุดสิ่งที่นักลงทุนชาวมะกันรอคอยมาอย่างเนิ่นนานก็เป็นจริง เมื่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ไฟเขียวให้ Volt Equity ได้ดำเนินการโปรเจคตราสารทุน ETF ของพวกเขาซึ่งถือเป็นการแง้มเส้นทางของการมี Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ
ท้ายที่สุดสิ่งที่นักลงทุนชาวมะกันรอคอยมาอย่างเนิ่นนานก็เป็นจริง เมื่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ไฟเขียวให้ Volt Equity ได้ดำเนินการโปรเจคตราสารทุน ETF ของพวกเขาซึ่งถือเป็นการแง้มเส้นทางของการมี Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ
การถือกำเนิดกองทุน Bitcoin (BTC) ภายในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แห่งสหรัฐอเมริกา นั้นคอยใช้สิทธิ์ที่พวกเขามีในมือเลื่อนกำหนดการตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดรับการยื่นขอทำ ETF ของสกุลเงินดิจิทัลประเภทดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนแม้แต่กรรมาธิการหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ยังออกมาแสดงความกังวลถึงความล้าหลังที่เกิดขึ้นนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหล่านักลงทุนนั้นต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ อาจจะมีหวังขึ้นมาบ้างแล้ว เนื่องจากทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ นั้นไฟเขียวให้ Volt Equity ดำเนินการกองทุนที่ชื่อว่า “Volt Bitcoin Revolution ETF” ในวันอังคารที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา
กองทุน ETF ของ Volt Equity ความหวังเล็ก ๆ ของนักลงทุนคริปโต
ETF ของ Volt Equity นั้นมีเป้าหมายเพื่อติดตามสิ่งที่เรียกว่า “บริษัทที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วย Bitcoin” ซึ่งหมายถึงบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์สุทธิส่วนใหญ่ใน Bitcoin หรือได้รับกำไร หรือรายได้ส่วนใหญ่จาก Bitcoin ไม่ว่าจะจากกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม เช่น การให้ยืม การขุดเหรียญ การทำธุรกรรม หรือการผลิตอุปกรณ์สำหรับทำเหมืองขุดคริปโต เป็นต้น
Tad Pak ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Volt Equity ได้พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาดังกล่าว และกล่าวว่ากองทุนนี้จะช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงบริษัทที่มีการเปิดรับ Bitcoin ได้โดยง่าย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ บริการ "Volt Bitcoin Revolution ETF" ใหม่นี้นั้นถูกกำหนดไว้ให้นักลงทุนทั้งหลายสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอ “บริษัทที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วย Bitcoin” ทั้งหลายซึ่งเขาเหล่านั้นที่ได้ถือสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากในงบดุลของตนนั่นเอง
“ฉันเชื่อมั่นใน Bitcoin และรู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับการเปิดตัว ETF ที่สามารถใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วย Bitcoin ที่กำลังจะเกิดขึ้น เราสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้โดยไม่ต้องถือเหรียญ”
Pak ยังอธิบายต่อว่าสินทรัพย์ของกองทุนดังกล่าวจะประกอบด้วยหุ้นของบริษัทประมาณ 30 แห่ง รวมถึง Tesla, Square, Coinbase, PayPal, MicroStrategy และ Twitter รวมถึงบริษัทที่ข้องเกี่ยวกับการขุด Bitcoin เช่น Bitfarms, Marathon Digital Holdings เป็นต้น โดยกองทุนนี้จะซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ BTCR และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ เพื่อความชัดเจน เขากล่าวเพิ่มเติมว่า Volt ETF จะไม่ลงทุนใน Bitcoin โดยตรง ดังนั้นจะมีความผันผวนน้อยกว่าสกุลเงินดิจิตอลบริสุทธิ์ที่ซื้อขายมูลค่าในตลาด เนื่องจากราคา Bitcoin ที่ดิ่งลงไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อหุ้นของบริษัทอย่าง PayPal, Tesla และคนอื่น ๆ นั่นเอง
การอนุมัติของ ก.ล.ต. อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
แม้ว่าการอนุมัติ Volt ETF ของ SEC ยังห่างไกลจากการอนุมัติ Bitcoin ETF แบบแท้ ๆ แต่การกระทำดังกล่าวก็บ่งชี้ว่าความเข้มงวดของหน่วยงานต่อ Bitcoin อาจอ่อนตัวลงเล็กน้อย ซึ่งการอนุมัติข้างต้นได้เป็นการส่งสัญญาณเป็นนัย ๆ ว่าสำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวโน้มที่จะอนุมัติ Bitcoin ETF ภายในปีนี้ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่า ก.ล.ต. ภายใต้การนำทัพของประธานอย่าง Gary Gensler ได้ชะลอการตัดสินใจอนุมัติการสมัคร Bitcoin ETFs จำนวนมากนั้นก็คงอยู่ ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันต่อว่า ทิศทางของ ก.ล.ต. กับ Bitcoin ETF จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต