ความต้องการจากนักลงทุนสถาบันและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดันยอดสัญญาฟิวเจอร์ส Bitcoin พุ่งแตะ 72,000 ล้านดอลลาร์ และหากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านสำคัญที่ 108,000 ดอลลาร์ได้ อาจปูทางสู่การเติบโตของตลาดคริปโตในระยะยาว
นักเทรดคริปโตที่เดิมพันว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องเผชิญกับการถูกล้างพอร์ต (Liquidation) ครั้งใหญ่เป็นอันดับสองของเดือนตุลาคม หลังจากที่ราคาของ Bitcoin และ Ethereum ปรับตัวลดลงใน 3 วันที่ผ่านมา
กองทุน Spot Ethereum ETF ยังคงดึงดูดเงินลงทุนต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 ติดต่อกัน ล่าสุดมีเม็ดเงินไหลเข้าอีกกว่า 533 ล้านดอลลาร์ ดันยอดสะสมทะลุ 8.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ นักลงทุนสถาบันอาจทำให้ความต้องการซื้อ ETH แซงหน้าซัพพลายที่ถูกผลิตใหม่ ถึง 7 เท่าในปีนี้
กองทุน Spot Bitcoin ETF มียอดไถ่ถอนสุทธิ 131.35 ล้านดอลลาร์ในวันจันทร์นี้ สิ้นสุดสถิติรับเงินไหลเข้าต่อเนื่อง 12 วัน ดึงดูดเงินทุนได้กว่า 6.6 พันล้านดอลลาร์
กระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรกำลังร่วมมือกับตำรวจและสำนักงานมหาดไทย เพื่อวางแผนขาย Bitcoin ที่ยึดได้จากคดีฉ้อโกงในจีน ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำรายได้ไปใช้ในงบประมาณของประเทศ
Ether กำลังเดินหน้าลงโทษนักลงทุนสายชอร์ตอย่างต่อเนื่อง และหากราคาพุ่งขึ้นอีก 10% จะส่งผลให้มีสัญญาชอร์ตถูกล้างเป็นมูลค่าอีกกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาให้ยืนเหนือ $4,000 ได้อย่างมั่นคง
แม้กระแสการลงทุนใน Memecoin จะกลับมาคึกคักอีกครั้งจนดันมูลค่าตลาดรวมพุ่งเกิน $79,000 ล้าน แต่ผู้นำในอุตสาหกรรมคริปโตกลับมีความเห็นที่แตกต่าง โดยบางฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณของการเติบโต ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าเป็นปัจจัยบั่นทอนชื่อเสียงของวงการ
นักวิเคราะห์เผยวาฬ Bitcoin ยุคแรกที่ถือเหรียญมาตั้งแต่ปี 2011 ได้โอนสินทรัพย์กว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์เข้าแพลตฟอร์มเทรด สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดมากกว่าการบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง
แม้ Bitcoin ร่วงต่ำกว่าระดับ $115,000 และเกิดการล้างสถานะ Long ครั้งใหญ่ในตลาด แต่บรรดานักวิเคราะห์และข้อมูลออนเชนยังชี้ว่า แนวโน้มขาขึ้นยังไม่ถูกทำลาย