เทรดเดอร์ที่กวาดกำไร $192 ล้านจากการ Short ตลาดคริปโต กลับมาเดิมพันอีกครั้ง!
เทรดเดอร์รายใหญ่บนแพลตฟอร์ม Hyperliquid เปิด Short Bitcoin มูลค่า $163 ล้าน หลังจากทำกำไรเกือบ $200 ล้านจากการเทรดก่อนข่าวภาษีของ Trump เพียงไม่กี่นาที

เทรดเดอร์รายใหญ่บนแพลตฟอร์ม Hyperliquid เปิด Short Bitcoin มูลค่า $163 ล้าน หลังจากทำกำไรเกือบ $200 ล้านจากการเทรดก่อนข่าวภาษีของ Trump เพียงไม่กี่นาที
เทรดเดอร์รายใหญ่ (กระเป๋า 0xb317) บนแพลตฟอร์มการเทรดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ Hyperliquid ได้กลับมาเปิดสัญญา Short ขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาเปิดสัญญา Short Bitcoin มูลค่า $163 ล้าน ด้วย Leverage 10X ซึ่งปัจจุบันมีกำไรที่ยังไม่ปิดราว $3.5 ล้าน แต่จะถูกล้างพอร์ตหากราคา BTC แตะ $125,500
กระเป๋าดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากจากชุมชนคริปโต หลังถูกพบว่าเปิดสัญญา Short ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump จะประกาศเก็บภาษีนำเข้า 100% ต่อจีนเพียง 30 นาที — เหตุการณ์ที่ส่งผลให้ราคาคริปโตทั่วตลาดดิ่งลงอย่างหนัก และทำให้เขาทำกำไรไปกว่า $192 ล้าน ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ถูกมองว่าเป็น “วาฬวงใน” หลังเทรดตรงจังหวะก่อนข่าวใหญ่
นักวิเคราะห์ในวงการบางรายเรียกเทรดเดอร์รายนี้ว่า “Insider Whale” เนื่องจากพฤติกรรมการเทรดที่ “แม่นยำเกินบังเอิญ” โดยเปิดสัญญาที่มีมูลค่าสูงก่อนเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจระดับโลกเพียงไม่กี่นาที
ผู้ใช้ X ชื่อ “MLM” กล่าวว่า “ที่น่าตกใจกว่าคือ เขาเปิดชอร์ต BTC และ ETH รวมอีกเกือบ 9 หลักก่อนตลาดจะพังลง และนั่นคือแค่สถานะที่เห็นได้บน Hyperliquid เท่านั้น”
ตามข้อมูลจาก HyperTracker พบว่ามีกระเป๋ากว่า 250 ใบสูญเสียเงินทุนมูลค่ากว่าล้านดอลลาร์ ภายในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง มีเทรดเดอร์รายหนึ่งเปิด Long Bitcoin มูลค่า $11 ล้าน ด้วย Leverage 40X เพื่อเดิมพันกับการกลับตัวในปัจจุบัน
นักวิจัยจาก SWP Berlin อย่าง Janis Kluge ให้ความเห็นว่า “วันนี้คนในวงการคริปโตได้เห็นชัดเจนแล้วว่าตลาดที่ไม่มีการกำกับดูแลเป็นอย่างไร — การเทรดวงใน การทุจริต อาชญากรรม และการขาดความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง”
Binance ปฏิเสธมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตลาดถล่ม
หลังเกิดกระแสคาดเดาว่า Binance อาจมีส่วนในเหตุการณ์เทขายครั้งนี้ — เนื่องจากคำสั่ง Stop-Loss บนแพลตฟอร์มไม่ทำงาน ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากถูก Liquidate ทางบริษัทก็ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า “ไม่มีเหตุการณ์ระบบล่ม” และปัญหาที่เห็นเป็นเพียง “Display Issue” หรือเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการแสดงผลบนแพลตฟอร์มมากกว่าการล่มของระบบ
Binance ระบุว่า “ระบบจับคู่คำสั่งซื้อขายของตลาด Futures และ Spot ยังคงทำงานตามปกติ” และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการร่วงของตลาด โดยได้จัดสรรเงินชดเชยราว $283 ล้านดอลลาร์ ให้ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจริง
ขณะเดียวกัน เหรียญประจำแพลตฟอร์ม อย่าง BNB ก็ได้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พุ่งขึ้นกว่า 14% กลับมาซื้อขายเหนือระดับ $1,300 อีกครั้ง
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว