ราคาหุ้นของบริษัทในสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีปรับตัวขึ้นพร้อมกับ Bitcoin ในวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังบริษัทหลายรายเดินหน้าเข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่คลังของตนเพิ่ม
ข้อมูลจากเว็บไซต์ SaylorTracker ระบุว่าบริษัท Strategy หรือชื่อเดิม MicroStrategy กำลังมีกำไรที่ยังไม่ได้ขายจากการถือครอง Bitcoin เกือบ 15,000 ล้านดอลลาร์
บริษัทการลงทุนสัญชาติญี่ปุ่น Metaplanet ได้ประกาศซื้อ Bitcoin ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยการเข้าซื้อ Bitcoin จำนวนเกือบ 620 BTC ท่ามกลางราคาที่ลดลงต่ำกว่า $100,000
แม้ว่ามูลค่าของเหรียญจะลดลงไปต่ำกว่า 42,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้วก็ตาม แต่ทว่านายกเทศมนตรี NYC แนะซื้อ Bitcoin ในช่วงนี้ดีที่สุด เพื่อรอสร้างกำไรหลังจากนี้
เหล่านักขุด Bitcoin มากหน้าหลายตาได้ผันตัวเองให้แปรเปลี่ยนเป็นผู้ถือครองระยะยาว ซึ่งเรื่องดังกล่าวกำลังสะท้อนให้เราเห็นอะไร? วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
นักวิเคราะห์คริปโตมองว่าการล้างพอร์ตครั้งใหญ่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดหายไปหลายพันล้านดอลลาร์ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “Altseason 3.0” หรือช่วงที่เหรียญอื่น ๆ เติบโตแรงกว่า Bitcoin
Santiment ระบุว่า เทรดเดอร์รายย่อยพยายามหาต้นเหตุมารองรับการปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาด หลังราคาคริปโตร่วงแรงจากข่าวภาษีสหรัฐฯ–จีน แต่นักวิเคราะห์มองต่าง
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า การที่ราคา Bitcoin ร่วงเกิน 5% ในเดือนตุลาคมถือเป็นเหตุการณ์ที่ “เกิดขึ้นได้ยากมาก” และตามสถิติในอดีต ราคามักฟื้นตัวแรงภายในสัปดาห์ถัดมา
นักเศรษฐศาสตร์ Timothy Peterson เผยผลจำลองข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี บ่งชี้ Bitcoin มีโอกาสครึ่งต่อครึ่งแตะระดับ 140,000 ดอลลาร์ในเดือนนี้ ซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนเดือนตุลาคมในอดีต
กองทุน ETF สินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ กลับมามีกระแสเงินไหลเข้าอีกครั้ง หลังประธาน FED ส่งสัญญาณเตรียมหยุดลดงบดุลและอาจเริ่มลดดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้
รายงานจาก Bitwise เผยจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่ถือครอง Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 38% ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน สะท้อนให้เห็นว่าผู้เล่นรายใหญ่กำลังทยอยเก็บสะสม ไม่ได้ถอยออกจากตลาด
