ข่าวต่างประเทศ

กลุ่มชาตินิยมอินเดีย เรียกร้องให้มีการแบนเหรียญคริปโต

Index.jpg

กลุ่มชาตินิยมอินเดียเริ่มเดินหน้าเรียกร้องให้มีการแบนคริปโตแล้ว

Swadeshi Jagran Manch หรือ SJM องค์กรลูกของ Rashtriya Swayamsevak Sanghกลุ่มการเมืองชาตินิยมของประเทศอินเดีย ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแบนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่

กลุ่มชาตินิยมอินเดียเดินเกมแบนคริปโต

โดยทาง SJM ได้กล่าวว่า ควรที่จะทำให้บุคคลธรรมหรือแม้แต่บริษัทนิติบุคคลได้รับบทลงโทษทางการเงิน ซึ่ง SJM ถือเป็นองค์กรทางการเมืองที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรมของประเทศอินเดีย

SJM เห็นว่า การแก้ปัญหาเรื่องคริปโตเคอร์เรนซี่นั้น ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ จะต้องทำการแบนคริปโตออกไป และทางรัฐบาลจะต้องทำการจำกัดการซื้อขายคริปโต รวมไปถึงเรื่องของการลงทุนรูปแบบใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะจะต้องไม่ให้ประชาชนชาวอินเดียทุกคนทำการซื้อขายคริปโตเป็นอันขาด

Vhwoa Flio8 1024x683.jpg

นอกจากนั้นแล้วทาง SJM ยังได้ดำเนินการเรียกร้องไปยังแผนกการจัดเก็บภาษีเงินได้ด้วย และเรียกร้องให้มีการออกมาตรการลงโทษทางการเงินหากผู้ใดก็ตามไม่กระทำตามกฎหมายที่กำหนดเอาไว้

ชี้เป็นช่องโหว่ในการฟอกเงิน

ที่ผ่านมาทาง SJM ได้เคยกล่าวว่า แม้ว่ากระแสการลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่จะเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายก็จริง แต่คนส่วนใหญ่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการเก็งกำไร ซึ่งการเก็งกำไรตรงนี้อาจส่งผลกระทบต่อระบบตลาดทุนภายในประเทศอินเดียเอง และที่สำคัญก็คือ การที่คนส่วนใหญ่แห่ไปลงทุนในตลาดคริปโตนั้น นำไปสู่ผลของการฟอกเงินโดยคนที่หวังหากินกับช่องโหว่ตรงนี้ และเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนการก่อการร้ายที่ยากต่อการตรวจสอบ ซึ่งเหรียญคริปโตสามารถทำการแลกเปลี่ยนเงินตราได้สะดวกรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้ทำให้ SJM วิงวอนขอให้ประชาชนชาวอินเดียตระหนักถึงภัยร้ายของเหรียญคริปโต โดยอยากให้ประชาชนเข้าใจถึงสาเหตุที่กลุ่ม SJM ต้องการแบนเหรียญคริปโต และขอให้ประชาชนอย่ายอมตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาชี้ชวนใด ๆ ที่เกี่ยวกับคริปโตเป็นอันขาด

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC