คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หรือ SEC กำลังยื่นฟ้องบริษัท Ripple โดยได้กล่าวหาว่า Ripple นั้นได้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนกับสำนักงาน ซึ่งก็คือเหรียญ XRP นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม Ripple ไม่ได้เป็นบริษัทเดียวที่เป็นจำเลยของ ก.ล.ต. เพราะก่อนหน้านี้คณะกรรมการ SEC ก็ได้ยื่นฟ้องต่อบรษัทอื่นหรือบุคคลอื่นที่มีอิทธิพลในวงการคริปโตเช่นกัน

ปี 2019 SEC ฟ้อง Block.One

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2019 SEC ได้เผยว่า Block.One บริษัทผู้สร้างโปรเจคคริปโต EOS นั้นยอมที่จะจ่ายค่าปรับให้กับ SEC หลัง SEC ได้ยื่นฟ้องกับบริษัทในข้อหาเดียวกันกับ Ripple

ในตอนนั้น SEC กล่าวหา Block.One ว่าทำการระดมทุนโดยการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่จดทะเบียนซึ่งตอนนั้นบริษัทก็ได้เงินไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าปรับดังกล่าวทาง SEC นั้นขอคิดเป็น 0.58 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินทุนที่บริษัทระดมทุนผ่านทาง ICO ได้ในปี 2017 (ประมาณ 24 ล้านดอลลาร์)

Block.One ยอมจ่ายค่าปรับแต่โดยดีแต่ก็ไม่ได้ยอมรับว่าตนทำเช่นนั้นจริง รวมถึงก็ไม่ได้ปฏิเสธด้วยเช่นกัน แต่ประกาศจากบริษัทเผยว่าเหรียญ ERC-20 นั้นจะไม่ได้มีการผลิตแล้ว หลัง EOS ยุบรวมเข้า mainnet จาก Ethereum ในช่วงกลางปี 2018 และไม่ได้ลงทะเบียนการเป็นหลักทรัพย์แต่อย่างใด

ปี 2020 SEC ฟ้องนาย John McAfee

กรณีคล้าย ๆ กันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับบริษัทอย่างเดียว บุคคลที่อยู่ในแวดวงคริปโตนาย John McAfee ก็ถูก ก.ล.ต. ฟ้องข้อหาโปรโมทการเสนอขายคริปโตเคอร์เรนซีผ่านทางทวิตเตอร์ในปีที่ผ่าน ๆ มา

อ้างอิงจากข้อมูลของ ก.ล.ต. เปิดเผยว่านาย McAfee สร้างรายได้มากกว่า 23.1 ล้านดอลลาร์ด้วยการโปรโมท ICO ผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาและโทเค็นเหล่านั้นที่เขาโปรโมทก็ไม่ได้น่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตามนาย McAfee กำลังถูกสรรพากรฟ้องร้องอยู่เช่นกันและกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ ข้อหาที่เขานั้นเสียภาษีและกำลังรอคำตัดสินศาลในสเปนว่าจะส่งตัวเขากลับสหรัฐอเมริกาหรือไม่

นาย McAfee เลี่ยงการจ่ายภาษีมาหลายปี ภรรยาของเขานาง Janice McAfee ได้โพสต์ทวิตเตอร์เผยว่าสุขภาพของนาย John McAfee นั้นไม่ดีเท่าไหร่ขณะอยู่ในคุกและไม่ได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์แม้เธอจะขอความช่วยเหลือไปหลายครั้งหลายหนก็ตาม

บริษัทอื่น ๆ ที่ถูก SEC ฟ้องในปี 2019 และ 2020

แพลตฟอร์ม Kik ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านคริปโตเคอร์เรนซีเพิ่งถูก ก.ล.ต. ฟ้องงไปเมื่อปี 2019 และบริษัทก็ได้จ่ายค่าปรับไปแล้วจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ก.ล.ต. ยันว่าเหรียญ KIN ซึ่งเป็นเหรียญดั้งเดิมของแพลตฟอร์มนั้นไม่ได้เป็นหลักทรัพย์ถือเป็นโทเค็นที่มีคุณลักษณะคล้ายกับ Bitcoin และ Ethereum

บริษัทได้โพสต์ทวิตเตอร์ถึง Ripple แสดงความเห็นใจในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย