ย้อนดู โครงการทดสอบกระเป๋าสตางค์ Novi ด้วย Paxos และ Coinbase
แม้จะโดนดับฝันอยู่หลายครั้ง แต่ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียยังคงไม่ลดละความตั้งใจที่จะเปิดตัวโครงการด้านสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาทั้ง 2 โครงการ อย่าง กระเป๋าสตางค์ Novi และสกุลเงินดิจิทัล Diem โดยวันนี้เราจะมาพาคุณย้อนดูความคืบหน้าล่าสุดในการดำเนินงานของพวกเขาแม้จะโดนสั่งยุติการดำเนินงานไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยก็ตาม
แม้จะโดนดับฝันอยู่หลายครั้ง แต่ยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียยังคงไม่ลดละความตั้งใจที่จะเปิดตัวโครงการด้านสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาทั้ง 2 โครงการ อย่าง กระเป๋าสตางค์ Novi และสกุลเงินดิจิทัล Diem โดยวันนี้เราจะมาพาคุณย้อนดูความคืบหน้าล่าสุดในการดำเนินงานของพวกเขาแม้จะโดนสั่งยุติการดำเนินงานไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยก็ตาม
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook ได้ออกมาประกาศถึงทิศทางการดำเนินงาน และความคืบหน้าของโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลลูกหม้อของพวกเขาอย่าง Novi โดยทางผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่รายนี้ได้ตบเท้าร่วมทัพกับ Coinbase แพลตฟอร์มศูนย์กลางซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลรายแรกของโลกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และ Paxos แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนที่สร้างระบบการเงินแบบใหม่ สำหรับการทดสอบแบบนำร่องในสหรัฐอเมริกา และกัวเตมาลา
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวไม่ได้ง่ายดังที่พวกเขาวาดฝันไว้ เพราะโครงการทดสอบข้างต้นได้ถูกดับฝันโดยวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านคำสั่งให้ระงับการใช้งานเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังประกาศเริ่มโครงการอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้เพื่อให้เราทั้งหลายได้เห็นถึงความพยายาม และความยากลำบากที่ Facebook เผชิญในการก้าวสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัล วันนี้เรามาย้อนดูกันดีกว่าว่า โครงการทดสอบกระเป๋าสตางค์ Novi ด้วย Paxos และ Coinbase มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง...
การทดสอบกระเป๋าสตางค์ Novi มีการดำเนินการอะไรบ้าง?
แผนของ Facebook ก็คือการเปิดโอกาสให้เหล่าผู้ใช้กลุ่มเล็ก ๆ ในทั้งสองประเทศที่กล่าวถึงข้างต้น ดาวน์โหลดแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลของ Novi บนอุปกรณ์ iPhone หรือ Android และสามารถเพิ่มเงินเข้าไปในบัญชีของตนด้วยบัตรเดบิตได้ ซึ่งหลักจากที่พวกเขาเติมเงินเสร็จสรรพนั้น พวกเขาก็จะสามารถโอนเงิน และรับเงินโดยใช้ Pax Dollar (USDP) ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่หนุนด้วยเงินดอลลาร์ที่ออกโดยบริษัท Paxos นั่นเอง
ทั้งนี้การที่ Facebook เลือกใช้ USDP ในโครงการนำร่องทั้งมีสาเหตุมาจากการมีประวัติที่พิสูจน์แล้ว ซึ่งเจ้า Stablecoin ตัวดังกล่าวยังมี “ความเพียบพร้อมด้านกฎระเบียบ และการคุ้มครองผู้บริโภค” เนื่องจากเงินสำรองที่หนุน USDP อยู่นั้นได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยเงินสดนั่นเอง ซึ่งการมีเงินสดจำนวนมากหนุนอยู่นั้นหมายความว่าเหล่าผู้ใช้ Novi จะสามารถถอนเงินในสกุลเงินท้องถิ่นของตนได้อย่างไร้กังวล
ในด้านเงินทุนของเหล่าลูกค้าทั้งหลาย ก็จะถูกควบคุมด้วย Coinbase ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องดังกล่าวอย่างมาก โดยพวกเขาได้บริหารจัดการสินทรัพย์ในมือมูลค่ากว่า 180,000 ล้านดอลลาร์ มาแล้วอย่างไม่ยากเย็น
Facebook คาดหวังว่าจะได้อะไรจากโครงการนำร่องในครั้งนี้
โฆษกของ Facebook กล่าวกับสื่อมวลชนว่า การทดลองในระยะนำร่องของโครงการจะช่วยทำให้ Facebook สามารถประเมินฟังก์ชันหลักของกระเป๋าเงิน Novi ของพวกเขา แถมยังได้แสดงศักยภาพในการใช้งานจริงได้อีกด้วย เพราะแท้ที่จริงแล้ว Novi นั้นได้รับการออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกันกับกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตามสำหรับทาง Facebook แล้ว ความสามารถด้านการใช้งานก็ยังเป็นรองมุมมองด้านการบริการลูกค้า และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของภาครัฐ
ฝันที่ถูกดับครั้งแล้วครั้งเล่า
แม้โครงการกระเป๋าเงินของ Facebook จะดู “สวยหรูเพียงใด” แต่ปัญหาการขาดความน่าเชื่อถือของ Facebook นั้นได้สร้างผลร้ายต่อโครงการด้านสกุลเงินดิจิทัลของพวกเขาทั้ง 2 โครงการ อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าพวกเขาจะการรีแบรนด์ หรือเปลี่ยนโฉมมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั้นก็ไม่ทำให้เหล่าผู้มีอำนาจนั้นเชื่อถือ และเชื่อใจผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังรายนี้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งความไม่ไว้วางใจที่ว่านี้เอง จึงเป็นต้นเหตุให้ทั้งโครงการ Novi และ Deim ถูกลงดาบจากวุฒิสภาสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากโครงการดังกล่าวได้เริ่มโลดแล่นในโลกกว้าง
ท้ายที่สุดนี้ บทลงโทษครั้งดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความทะเยอทะยานของ Facebook กับการสร้างสกุลเงินดิจิทัลมากแค่ไหน เราทั้งหลายก็ต้องติดตามดูกันต่อไป...