BAND Protocol หรือ Cross Change Data oracle เปรียบเสมือนสะพานที่นำข้อมูลแห่งโลกความจริงลำเลียงไปสู่เครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) โดยมาจากการเปิดระดมทุน (ICO) ผ่านแฟลตฟอร์ม ERC-20 ในปี 2017 หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง คือ คุณสรวิศ ศรีนวกุล ซึ่ง BAND Protocol ได้มีการพัฒนาและมีความคิดพื้นฐานมาจาก Framework Cosmos SDK ช่วยรับ-ส่งข้อมูลจากภายนอกไปยังเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) นอกจากจะเป็นสะพานระหว่างบล็อกเชนและโลกภายนอกแล้ว ยังรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและถูกต้องด้วย
BAND Protocol (BAND) มีการสร้างเครือข่ายแบบ Decentralize เพื่อเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน ดังนั้นผู้คนทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงบล็อกเชน (Blockchain) ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ลดปัญหาตัวกลางลงไปได้ นอกจากนั้น BAND Protocol (BAND) ยังรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องทั้งหมดจากโลกภายนอกก่อนที่จะทำการป้อนไปยัง Application บนบล็อกเชน (Blockchain) หรือ Decentralized Application (Dapps) รวมถึง Defi ที่ต้องการทั้งความถูกต้องและชัดเจน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมาดึงข้อมูลไปใช้ได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง อีกทั้งยังรวดเร็วใช้เวลาแค่ 3-6 วินาทีเพียงเท่านั้น
เป็นเพราะว่า BAND Protocol (BAND) ไม่ได้เป็นแค่เพียงตัวกลางที่เอาไว้คอยรับ-ส่งข้อมูลเพียงแค่อย่างเดียว ยังมีผู้ตรวจสอบ (Validator) หลังจากได้ตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับมาว่าถูกต้องและครบถ้วนแล้วนั้นก็จะทำการส่งต่อไปให้ Application ที่อยู่บนบล็อกเชน (Blockchain) โดยอัตโนมัติ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้อมูลบนเครือข่ายบล็อกเชนนั้นมีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะถูกต้อง
เวลาที่นักพัฒนาทำการสร้าง Blockchain Application จะต้องใช้ข้อมูลที่อยู่ด้านนอกบล็อกเชน (Blockchain) ในขณะเดียวกันตัว Application นั้นก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ ดังนั้นตัวกลางที่คอยป้อนข้อมูลจากภายนอกเข้าไปยังบล็อกเชน (Blockchain) จึงเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญมากเพื่อให้ Application ใช้งานได้ ดังนั้นถ้าหากข้อมูลที่ถูกใส่ลงไปเป็นข้อมูลที่ผิดก็อาจจะทำให้ระบบล่ม หรือใช้งานไม่ได้ในอนาคตและส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมอย่างแน่นอน