หยวนดิจิทัลของจีนมาแรง อาจจะแทนที่ Bitcoin และดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินโลกอาจเปลี่ยนไป จีนเล็งใช้เงินหยวนดิจิทัลมาแทน Bitcoin อีกทั้งเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงโดยไม่มีการใช้ทองคำเป็นประกัน
สกุลเงินโลกอาจเปลี่ยนไป จีนเล็งใช้เงินหยวนดิจิทัลมาแทน Bitcoin อีกทั้งเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงโดยไม่มีการใช้ทองคำเป็นประกัน
ไม่แน่ สกุลเงินโลกอาจเปลี่ยนไป จีนเล็งใช้เงินหยวนดิจิทัลมาแทน Bitcoin
เพราะเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงมากขึ้นทุกที แถมประธานาธิบดีทรัมป์ยังสั่งพิมพ์ธนบัตรออกมาเพิ่มเติมโดยไม่มีการใช้ทองคำเป็นตัวค้ำประกัน ยิ่งทำให้ชาติต่างๆทั่วโลกให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น โดยในขณะนี้มีคนกำลังมองหาเงินสกุลใหม่ที่จะมาแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐรวมไปถึง Bitcoin ที่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ เหมืองก็ใกล้จะแตกเต็มทีด้วยเงินหยวนดิจิทัลของจีน
อย่างไรก็ตามคนจีนบางส่วนเองก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปกับแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้มากนัก อย่างธนาคารเกษตรของจีนทั้ง 4 เมือง กลับมองว่ามันเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงมั่นใจในสกุลดอลลาร์ในการกำหนดราคาสินค้าเช่น ทองคำและน้ำมัน โดยในขณะนี้เงินหยวนดิจิทัลนั้นเป็นเหมือนกับเงินสดทางอิเล็กทรอนิกส์แต่กำลังจะได้รับการทดสอบครั้งใหญ่ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งในปี 2022 ก่อนที่จะตัดสินใจว่านำมาเป็นเงินสกุลหลักของโลกหรือไม่
นอกจากนี้การเปิดตัว CBDC ยังถือเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองเพื่อครองตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่เกิดขึ้นใหม่อีกทางหนึ่งด้วย โดย Andrew Polk ผู้ร่วมก่อตั้งของ Trivium China ซึ่งเป็น บริษัทที่ปรึกษาของรัฐบาลจีนและเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เชื่อว่า PBoC นั้นมองเห็นโอกาสที่จะสร้างผลประโยชน์จำนวนมหาศาล จึงได้ผลักดันโครงการนี้อย่างเต็มกำลังเพราะมันจะทำให้จีนกลายเป็นผู้นำระดับโลก
อย่างไรก็ดี ทางอเมริกาก็ยังคงมั่นใจว่าสินทรัพย์ส่วนใหญ่จะยังผูกขาดกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะมันยังคงมีความน่าเชื่อถือในวงกว้างทั่วโลกนั่นเอง
หากเงินหยวนดิจิทัลจะกลายมาเป็นเงินสกุลหลักของโลกจริง PBoC จะยังสามารถติดตามเงินภายในเครือข่าย CBDC ของตนเองได้และยังมีหน่วยงานอื่นๆคอยช่วยจำกัดจำนวนเงินที่ทำธุรกรรมและเชื่อมกับระบบเครดิตทางสังคมของจีนได้ ไม่ต่างจากการทำธุรกรรมออนไลน์ในปัจจุบัน
คงใช้เวลาอีกหลายปี กว่า CBDC จีนจะเปิดตัวหยวนดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ถ้าอเมริกาไม่อยากให้ดอลลาร์มีปัญหาหรือใครไม่อยากให้ Bitcoin ต้องเสื่อมค่าก็ต้องรีบปรับกลไกภายในกันอย่างเร่งด่วนก่อนที่จีนจะกลายเป็นชาติมหาอำนาจเพียงชาติเดียวของโลกในอนาคต