YouTube ดูท่าจะไม่ชอบ Crypto เอาเสียเลย

YouTuber ที่โฟกัสเนื้อหาด้าน Cryptocurrency นามว่า “Sunny Decree” ได้ออกมาประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าเขานั้นเห็นสตรีมสดของตัวเองถูกปิดลงโดยฝีมือของ YouTube ซึ่งทางแพลตฟอร์มดังกล่าวระบุว่าสาเหตุของการลงดาบในครั้งนี้ว่าวิดีโอสตรีมของ Decree นั้นละเมิดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามและเนื้อหาที่เป็นอันตราย

แพลตฟอร์มแบ่งปันวิดีโอชื่อดังนั้นได้ระงับการสตรีมสดในครั้งนี้ผ่านช่องที่เป็นภาษาอังกฤษของ Sunny Decree แม้ทางผู้สร้างเนื้อหายังทำการบันทึกเป็นภาษาเยอรมันด้วยก็ตาม ทั้งยังออกคำเตือน Decree ว่าหากเขากระทำผิดครั้งที่สองจะส่งผลให้เกิด การระงับบริการสำหรับการสตรีมสด การอัปโหลดและการโพสต์เป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาประสบปัญหาเหล่านี้

ช่องของ Decree เคยตกเป็นเป้าหมายของ YouTube มาก่อน ในเดือนธันวาคม ปี 2019 โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้เริ่มลบวิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Cryptocurrency อย่างจริงจังจากเหล่า YouTuber ที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย รวมถึงช่อง Decree ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 123,000 คน

ตอนแรกทาง YouTube นั้นนำวิดีโอออกไปแบบไม่มีคำอธิบายใด ๆ และต่อมาแพลตฟอร์มดังกล่าวก็อ้างว่าเหตุการณ์นั้นเป็น "ข้อผิดพลาด" และทำการกู้คืนวิดีโอจำนวนมากกลับมาเหมือนดังเดิม อย่างไรก็ตาม YouTube ก็ยังคงตั้งเป้าการโจมตีไปที่ช่องซึ่งผลิตเนื้อหาเกี่ยวข้อง Crypto จำนวนมาก

หากเรามองย้อนไปในเดือนมิถุนายนแพลตฟอร์ม ทาง YouTube ได้ปิดช่องทางการของเว็บไซต์ข่าวสกุลเงินดิจิทัลชื่อดังอย่าง Bitcoin.com ด้วยเหตุผลที่ว่า “ละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของ YouTube” แต่โชคยังดี ภายหลังจากการอุทธรณ์ของช่องและเหล่าสมาชิกทั้งหมดกว่า 40,000 คน ท้ายที่สุด Bitcoin.com ได้รับการกู้คืนในอีกสองวันต่อมา

Youtube มักมีทัศนคติแปลก ๆ กับสกุลเงินดิจิทัล

แม้การแสดงออกของ Youtube จะค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขา “ไม่ปลื้ม” สกุลเงินดิจิทัลเป็นอย่างมาก แต่ในขณะที่เกิดเหตุการณ์โจมตี Twitter ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทาง Youtube กลับหาผลประโยชน์จากการโฆษณาแบบไม่ชอบธรรม เพราะปล่อยให้วิดีโอหลอกลวงเกี่ยวกับ Bitcoin ซึ่งแสดงภาพของนาย Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อก้องโลกอย่าง Apple ลอยนวลอย่างยาวนาน โดยเนื้อหาภายในคลิปดังกล่าวเป็นการใช้ภาพปลอมของ Wozniak ชักจูงผู้ติดตามในช่องยูทูปให้หลงผิดคิดว่าหากพวกเขาส่ง Cryptocurrencies ไปยังที่อยู่ของ Wallet ที่ได้ถูกระบุไว้ พวกเขาจะได้รับ Bitcoin (BTC) เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า