วาฬแห่ถือ Stablecoin เพิ่มกำลังซื้อสูงทะลุ 7%
บรรดาวาฬที่ถือ USDT มูลค่าตั้งแต่ 10,000 ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พากันแห่ถือ Stablecoin เพิ่มไว้ใน Wallet เพื่อรอซื้อ Bitcoin ในช่วงที่ราคาลดต่ำลง
บรรดาวาฬที่ถือ USDT มูลค่าตั้งแต่ 10,000 ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พากันแห่ถือ Stablecoin เพิ่มไว้ใน Wallet เพื่อรอซื้อ Bitcoin ในช่วงที่ราคาลดต่ำลง
สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin (BTC) กำลังพบกับอุปสรรคในการเอาชนะแนวต้านที่ระดับ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้วาฬจำนวนมากแห่ถือ Stablecoin กันมากขึ้น และทำให้กำลังซื้อนั้นเพิ่มขึ้นมากว่า 7% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น
Buying Power คืออะไร
กำลังซื้อ (Buying Power) คือ ความสามารถของเหรียญ Stablecoin ที่สามารถนำไปซื้อ Bitcoin จนสามารถทำให้ราคาของเหรียญเพิ่มสูงขึ้นมาได้ ซึ่งหากราคาของ Bitcoin ลดลง อุปทานของ Stablecoin จะสามารถนำมาใช้เพื่อซื้อเหรียญในสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้อุปทาน BTC ยังคงหมุนเวียนต่อไปได้ และทำให้ราคาสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
วาฬแห่ถือ Stablecoin เพราะต้องการซื้อ BTC ในราคาที่ต่ำ
อ้างอิงจากข้อมูลของ Santiment พบว่าวาฬที่ถือครองเหรียญ Tether (USDT) มูลค่าตั้งแต่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไว้ใน Wallet ของพวกเขา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีกำลังซื้อเหรียญสะสมรวมมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากว่า 7% ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น โดยการเข้ามาสะสมเหรียญ Stablecoin ของบรรดาวาฬในตลาดได้บ่งชี้ให้เห็นว่าพวกเขากำลังรอคอยที่จะซื้อ Bitcoin ในช่วงที่ราคาของเหรียญลดต่ำลง จึงอาจส่งผลให้เกิดแนวโน้มของตลาดกระทิงได้ในอนาคตได้
ทั้งนี้ปริมาณเหรียญ BTC ที่หลั่งไหลออกจากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนยังเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าในช่วง 21 สัปดาห์ที่ผ่านมา อุปทาน BTC มีการหมุนเวียนภายนอกตลาดแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นจากเดิมอีกด้วย
ราคา Bitcoin ยังคงมีความเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับปีที่ผ่านมา
สาเหตุสำคัญอีก 1 ประการที่อาจส่งผลทำให้โมเมนตัมของราคาเริ่มเคลื่อนไหวน้อยลงในปัจจุบันนั้นอาจเกิดมาจากความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับหุ้น S&P 500 ที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
Source: Santiment
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถสร้างความตื่นตระหนกให้กับบรรดานักลงทุนมากเท่าไรนัก เนื่องจากโมเมนตัมของราคานั้นยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในลักษณะเดียวกันกับช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2021 ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นไปเฉิดฉายเหนือ BTC ได้ แต่ทว่าเมื่อเดินทางเข้ามาสู่ช่วงกลางไตรมาสที่ 3 Bitcoin ได้ทำลายความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นลง และทะยานขึ้นสร้างสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ส่งผลให้ราคาทองคำนั้นร่วงลงมาสร้างระดับต่ำสุดครั้งใหม่เช่นเดียวกัน
