ข่าว Bitcoin

Coinjoin ของ Wasabi พร้อมบล็อกธุรกรรมผิดกฎหมาย

Wasabi Wallet Parent Company Explains Decision to Censor Bitcoin Transactions 813x388 1.png

บริการ Coinjoin ของ Wasabi Wallet จะสามารถใช้ zkSNACKs ในการบล็อกธุรกรรมผิดกฎหมาย หรือ ธุรกรรม UTXOs เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมได้แล้ว

ผู้ให้บริการเครื่องมือปิดบังการทำธุรกรรม Bitcoin (BTC) ยอดนิยม หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ Coinjoin ของ Wasabi Wallet ประกาศผ่านบัญชีทวิตเตอร์ขององค์กร เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ถึงความพร้อมในการดำเนินการบล็อก Output ของรายการการทำธุรกรรมประเภท Unspent Transaction (UTXOs) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากลงทะเบียนกับ Coinjoin ในการใช้เครื่องมือ zkSNACKs หรือ เครื่องมือการเข้ารหัสแบบ "zero-knowledge" ที่มักถูกนำมาใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับธุรกรรมต้นกำเนิด และมักทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกำจัดเงินที่เกิดขึ้นอย่างผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายจากผู้ไม่หวังดี

https://twitter.com/wasabiwallet/status/1503091503207432193?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1503091503207432193%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fbitcoinaddict.org%2F2022%2F03%2F15%2Fcoinjoin-btc-mixing-tool-to-block-illicit-transactions%2F

Coinjoin คืออะไร?

Coinjoin เป็นหนึ่งในกระบวนการที่ใช้เพื่อปิดบังธุรกรรมสำหรับเหรียญ Bitcoin บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะถูกแบ่งธุรกรรมออกมาเป็นหลายรายการ ซึ่งรายการธุรกรรมทั้งหมดเหล่านั้นจะถูกโอนเข้า และถอนออกในจำนวนที่เท่ากัน แต่ทว่าจะมีการผสมผสาน Address ในการทำธุรกรรมเพื่อให้ต้นกำเนิดของการโอนเหรียญเหล่านั้นถูกติดตามได้ยากกว่าการทำธุรกรรมแบบทั่วไป

ทั้งนี้หนึ่งในผู้ให้บริการ Coinjoin ชื่อดังนั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Wasabi หรือ แพลตฟอร์มผู้ให้บริการกระเป๋าสตางค์ Bitcoin แบบ Open-source ที่ดังในเรื่องของความเป็นส่วนตัว และได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริการดังกล่าวนั้นสามารถนำมาใช้เพื่อปกปิด หรือสร้างความซับซ้อนให้กับการดำเนินธุรกรรมออนไลน์ได้ จึงทำให้บรรดาอาชญากรบนโลกไซเบอร์ฉวยโอกาสนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมนั่นเอง โดยจะเห็นได้จากข้อมูลการวิเคราะห์ของ Elliptic ที่ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 2020 ได้บ่งชี้ว่ากว่า 22% ของ Bitcoin ที่ถูกขโมยไปจากแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ถูกส่งกลับไปยัง Address บนแพลตฟอร์มของ Wasabi Wallet

Casas Cambio Bitcoin Manchado 910x570 1.jpg

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายใหญ่ระดับโลกอย่าง Binance ก็ได้เคยออกมาประกาศอายัดบัญชีผู้ใช้งานที่ใช้ Coinjoin ร่วมกับ Wallet ของทาง Wasabi เนื่องจากขัดต่อมาตรการกำกับดูแลแห่งประเทศสิงคโปร์ จนทำให้ผู้ใช้งานหลายรายออกมาต่อว่าองค์กรในการกระทำครั้งนี้ พร้อมทั้งแสดงเหตุผลมากมายเพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้คนหันกลับมาใช้ Coinjion ด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้สนับสนุนไม่พอใจ Coinjoin ของ Wasabi Wallet

หลังจากที่ Wasabi Wallet ตัดสินใจออกมาประกาศยินยอมดำเนินการตามข้อบังคับทางกฎหมายที่ผ่านมานั้น เปรียบเสมือนกับการแอบส่อแววว่าพวกเขาเตรียมล้มเลิกเจตนารมณ์ที่แท้จริงของทางองค์กรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เหล่าผู้สนับสนุนหลายรายเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าทางด้านผู้พัฒนา Wasabi ได้ออกมาชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาว่า ทางองค์กรไม่ได้คิดที่จะล้มเลิกการปฎิบัติตามเจตนารมณ์ของบริษัทแต่อย่างใด เพียงแค่การออกมาประกาศในครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นจากความจำเป็นที่จะต้องปฎิบัติตามกฎเกณฑ์บางอย่างก็เท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้พัฒนารายนี้ยังได้ออกมาชี้ให้เห็นถึงข้อสังเกตุเพิ่มเติมว่าการบล็อกธุรกรรมประเภท UTXOs นั้นจำกัดอยู่แค่เพียงรายการที่ใช้เครื่องมือ ZkSNACKs เท่านั้น และผู้คนที่ใช้เครื่องมืออื่น ๆ ยังคงสามารถได้รับการบริการที่ยังคงความเป็นส่วนตัว และปลอดภัยได้เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Adam Fiscor ผู้ก่อตั้ง Wasabi Wallet ก็ได้ออกมายอมรับว่าการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้ Privacy Wallet ถูกลิสต์เป็นหนึ่งในบัญชีดำได้ นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเครื่องมือดังกล่าวอาจเป็นภัยคุกคามต่อการใช้งานร่วมกับ Bitcoin อีกด้วยเช่นเดียวกัน

อัตราการก่ออาชญากรรมบนธุรกรรมนั้นเริ่มลดน้อยลง

อาชาญกรรมบนโลกไซเบอร์นั้นได้กลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายครั้งใหม่สำหรับเหล่านักพัฒนาในตลาดคริปโตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่แฮ็กเกอร์มือดีหลายรายได้เริ่มต้นบุกโจมตีแพลตฟอร์มรายใหญ่หลายแห่งนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 ส่งผลให้รัฐบาล และหน่วยงานกำกับดูแลได้เริ่มออกมาอธิบายถึงข้อกำหนดการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ผิดกฎหมาย และหน้าที่ของ Privacy Wallet รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูล และผลการวิจัยจากบริษัทต่าง ๆ ได้ระบุว่าการใช้คริปโตเพื่อกระทำความผิดทางกฎหมายมีสัดส่วนเกิดขึ้นบนรายการธุรกรรมน้อยมาก และยังคงมีปริมาณที่ลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ Chainalysis ที่บ่งชี้ว่าปริมาณการทำธุรกรรมคริปโตที่ผิดกฎหมายทั้งหมดนั้นลดลงเหลือแค่เพียง 0.15% เมื่อปี 2021 เนื่องจากเครื่องมือตรวจสอบการทุจริตอันทรงพลังเริ่มถือกำเนิดในอุตสาหกรรมมากขึ้นนั่นเอง

E1432e12 A8ba 49be A0f1 A81554fde7e3.png
Source: Chainalysis
ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
พบผู้ถือ Memecoin เกินกว่าครึ่ง ไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับตัวของตลาด
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC