ส.ส.สหรัฐฯ ฝั่งแอนตี้ ชี้สายไปแล้วที่จะ 'แบนคริปโต'
'Brad Sherman' เปิดเหตุผล มอง 'สายไปแล้ว' ที่จะแบนคริปโตตอนนี้ พร้อมชี้ 'เหรียญมีม' ทำให้การออกกฎหมาย 'คุ้มครองนักลงทุน' ยากขึ้นไปอีก
'Brad Sherman' เปิดเหตุผล มอง 'สายไปแล้ว' ที่จะแบนคริปโตตอนนี้ พร้อมชี้ 'เหรียญมีม' ทำให้การออกกฎหมาย 'คุ้มครองนักลงทุน' ยากขึ้นไปอีก
จากการสัมภาษณ์ล่าสุดของ 'Brad Sherman' หนึ่งใน ส.ส.สหรัฐฯ พรรคเดโมแครต ผู้มีจุดยืนต่อต้านคริปโตเคอร์เรนซีอย่างชัดเจน เปิดเผยกับ LA Times เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ามัน "สายไปแล้ว" ที่จะแบนคริปโตตอนนี้
เขาระบุว่าในขณะนี้อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีนั้นใหญ่และแข็งแกร่งเกินเกินไปที่จะถูกแบน โดยเฉพาะในเรื่องของการใต้โต๊ะให้กับนักการเมืองและการล็อบบี้ด้วยคริปโต ทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกกฎหมายแบนอย่างเบ็ดเสร็จกับอุตสาหกรรมนี้
ก่อนหน้านี้เราไม่แบนมันเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะมีนัยสำคัญมากแค่ไหน และตอนนี้เราก็แบนมันไม่ได้เพราะมันมีมูลค่าและอำนาจมากเกินไปอยู่เบื้องหลังมัน
Brad Sherman ระบุในการสัมภาษณ์
'Brad Sherman' เป็นหนึ่งในนักการเมืองสหรัฐฯ ที่มีจุดยืนตรงกันข้ามกับ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซีอย่างชัดเจน พร้อมกับแสดงออกต้องการให้คริปโต 'ถูกแบน' มาตั้งแต่ปี 2019 แต่หลังจากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะเบนเข็มออกมาจากการต่อต้านอย่างเต็มรูปแบบ มาสู่การเรียกร้องให้มีกฎหมายควบคุมตลาดคริปโตแทน
แต่ผมก็ว่ามันคงจะยากนะที่จะออกกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคมาในประเทศที่ประชาชนอยากจะเอาเงินไปลงทุนกับเหรียญ Meme พวกนี้อยู่
คริปโตเคอร์เรนซีมันก็เหมือนมีมที่คุณเอาเงินไปลงทุน มันเป็นอะไรที่คุณหวังว่าคุณจะสามารถขายมันได้ทันก่อนที่ราคาจะดิ่ง และมันไม่ต่างอะไรกับ Ponzi scheme เลย
ฝั่งต่อต้าน vs. ฝั่งสนับสนุน
ถึงแม้ว่า Brad Sherman จะเป็นนักการเมืองคนหนึ่งที่กำลังเรียกร้องให้มีกฎหมายควบคุมตลาดคริปโต แต่ก็เห็นได้ชัดว่านักการเมืองที่เรียกร้องกฎหมายคริปโตในสหรัฐฯ ก็ยังดูเหมือนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งต่อต้าน และฝั่งสนับสนุน ที่ยังคอยปะทะกันอยู่ในสภา
โดยฝั่งต่อต้านก็อย่างเช่น Brad Sherman ที่เรียกร้องให้มีกฎหมายมาควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จ ควบคุมอำนาจใว้อยู่ที่รัฐบาล และไม่ต้องการที่จะคงไว้ซึ่งความเป็น Decentralized เสียเท่าไร ตรงกันข้ามกับฝั่งสนับสนุนอย่าง Cynthia Lummis ส.ว. สายคริปโตที่ต้องการที่จะออกกฎหมายควบคุมเพื่อคุ้มครองนักลงทุน และให้คริปโตอยู่ในกฎในเกณฑ์เสียมากกว่า
อ้างอิง: Cointelegraph