ข่าว Bitcoin

สกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นภัยคุกคามต่อดอลลาร์สหรัฐ และยูโร

Photo 1495576596703 E0063a132b6e.jpg

หน่วยงานสอดแนมของสหรัฐฯ แนะนำว่าสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นภัยคุกคามต่อดอลลาร์สหรัฐ และยูโร ได้ เนื่องจากมันมีศักยภาพมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ

สภาข่าวกรองแห่งชาติของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา หรือ The National Intelligence Council ได้ระบุว่าการกำเนิดของสกุลเงินดิจิทัลเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะนำมนุษยชาติไปสู่โลกที่ไร้ผู้นำ และไร้ความมั่นคงในทศวรรษหน้า

โดยอ้างอิงตามการรายงานของ Bloomberg ทางสภาข่าวกรองแห่งชาติเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลเช่น Bitcoin (BTC) Ethereum (ETH) รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการแข่งขันในอวกาศ ต่างก็ศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ

ซึ่งทุก ๆ 4 ปี ทางหน่วยงานสอดแนมของสหรัฐฯ จะต้องจัดทำโดยรายงานในลักษณะนี้ออกมา และในคราวนี้พวกเขาได้ข้อสรุปทางด้านการเงินว่าสกุลเงิน Fiat ทั่วโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ และยูโร จะเผชิญกับภัยคุกคามจากระบบการเงินหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ

“สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยเอกชนสามารถเพิ่มความซับซ้อนให้กับการดำเนินนโยบายทางการเงินโดยการลดการควบคุมของประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน และปริมาณของเม็ดเงิน”

รายงานฉบับนี้ยังเน้นย้ำถึงอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ และการแพร่หลายของเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งทั้งหมดนี้มีแนวโน้มในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่แตกต่างออกไปจากระบบเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยนี่จะเป็นการเปิดประตูให้ทั้งภาครัฐ และเหล่าผู้เล่นในตลาดที่ไม่ใช่รัฐ เพื่อให้พวกเขา “มีอิทธิพลต่อประชากร ซึ่งรวมไปถึง การเพิ่มการจัดการความรู้ความเข้าใจ และการแบ่งขั้วทางสังคม”

Cryptocurrencies กำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่มีชื่อเสียงมากขึ้น

ในจดหมายประจำปีล่าสุดถึงผู้ถือหุ้น ทาง Jamie Dimon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกา อย่าง JPMorgan Chase & Co ได้เน้นย้ำถึงสกุลเงินดิจิทัลว่าเป็นส่วนหนึ่งของภัยคุกคามที่ "มีการแข่งขันกันอย่างมหาศาล" ซึ่งเป็นเรื่องทางอุตสาหกรรมธนาคารกำลังเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“มีปัญหาร้ายแรงที่ต้องจัดการ และต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว: การเติบโตของธนาคารเงา, สถานะทางกฎหมาย และกฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัล, การใช้ข้อมูลทางการเงินอย่างเหมาะสม และไม่เหมาะสม, ความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงซึ่งระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ก่อให้เกิดกับเครือข่ายทั้งหมด”

ในขณะที่ Dimon มุ่งเน้นไปที่การเติบโตของ Fintech แต่เขาเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลที่กว้างขึ้นสำหรับระบบทางการเงิน และเหล่าสกุลเงินทั้งหมดซึ่ง Bitcoin (BTC) และ Altcoins อื่น ๆ กำลังค่อย ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดลิสต์ '5 เหรียญ' ที่ค่า RSI เข้าใกล้พื้นที่ 'Overbought' ประจำสัปดาห์
ล่าสุด 'CoinLedger' ประกาศความร่วมมือกับ 'MetaMask
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงกลางเดือน มีนาคม ปี 2567
ล่าสุด ศาลมอนเตเนโกร ปฏิเสธคำร้องอุทธรณ์ของ ‘Do Kwon’ หลังถูกตัดสินส่งตัว