สหรัฐฯ อาจแบนหยวนดิจิทัลอย่างจริงจัง
ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจแบนหยวนดิจิทัลนั้นเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากสมาชิกวุฒิสภาเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่หวังปกป้องชาวอเมริกันจาก CBDC จีน
ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจแบนหยวนดิจิทัลนั้นเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากสมาชิกวุฒิสภาเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่หวังปกป้องชาวอเมริกันจาก CBDC จีน
ฝ่ายนิติบัญญัติประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเร่งเตรียมหาแนวทางปกป้องประเทศจากภัยที่แอบแฝงมากับคริปโตเคอร์เรนซีสัญชาติจีนอย่าง “หยวนดิจิทัล” หลังการทดลองนำเหรียญดังกล่าวมาใช้งานในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้นเป็นไปได้ด้วยดี รวมไปถึงยังได้รับการยอมรับจากหลากหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย โดยล่าสุด ได้มีผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ให้ออกมาแบนหยวนดิจิทัลอย่างจริงจัง เรามาหาคำตอบกันดีกว่าว่าทำไมประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาถึงหวาดระแวง CBDC สัญชาติจีนสกุลนี้
สมาชิกวุฒิสภาเสนอร่างกฎหมายใหม่
เมื่อวันพุธที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมาสมาชิกวุฒิสภาจากพรรค Republican ทั้ง 3 รายอันได้แก่ Tom Cotton, Mike Braun และ Marco Rubio พร้อมใจกันเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ต่อรัฐบาลในหัวข้อ “การป้องกันชาวอเมริกันจากพระราชบัญญัติบังคับใช้กฎหมายสกุลเงินดิจิทัล (Authoritarian Digital Currencies Act) ด้วยความมุ่งหวังที่จะจำกัดการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CBDC) หรือ หยวนดิจิทัล ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาลง รวมไปถึงการเสนอให้รัฐบาลออกคำสั่งห้ามใช้ระบบการชำระเงินจากทางรัฐบาลจีน อย่าง e-CNY บน app stores หรือ บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่างเด็ดขาดอีกด้วยเช่นเดียวกัน
คำจำกัดความของคำว่า app stores นั้นครอบคลุมไปถึงการเข้าถึงเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชันต่าง ๆ จากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงอุปกรณ์ประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้ ผู้ให้บริการที่จัดจำหน่ายแอปพลิเคชัน และซอฟต์แวร์ในสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องไม่ออกมาสนับสนุน หรือ รองรับการทำธุรกรรมผ่าน e-CNY หรือ แอปพลิเคชันอื่นที่เกี่ยวข้องภายในประเทศอีกด้วย
สาเหตุที่สหรัฐฯ อาจแบนหยวนดิจิทัลในอนาคต
หลาย ๆ คนอาจยังสังสัยว่าการยื่นเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้นั้นมีความจำเป็นที่จะต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ แน่นอนว่าทางวุฒิสมาชิกทั้ง 3 รายเองก็ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของการกระทำในครั้งนี้แล้ว โดยระบุว่าการสั่งแบนหยวนดิจิทัลนับว่าเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติจากการถูกควบคุม รวมไปถึงยังเรียกได้ว่าเป็นการระมัดระวังการจู่โจมในตลาดการเงินจากจีนอีกด้วย
นอกจากนี้ Cotton หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาที่ได้ยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวก็ได้ออกมาเน้นย้ำถึงแนวโน้มที่จีนจะนำ CBDC มาใช้สอดแนม และควบคุมพฤติกรรมทางการเงินของชาวอเมริกันที่ใช้งานเหรียญเหล่านี้ได้ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางรัฐบาลควรปฏิเสธการใช้งาน CBDC สัญชาติจีนที่พยายามจะเข้ามาบ่นทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้ได้นั่นเอง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯโต้ตอบการปล่อยหยวนดิจิทัลของจีน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลแห่งสหรัฐอมเริกาต่างก็มองว่า CBDC จากแดนมังกรนั้นก็เปรีบเสมือนเครื่องมือการข่มขู่ระดับชาติ โดยก่อนหน้านี้ ทางสหรัฐก็ได้เคยเสนอร่างกฎหมายให้มีการจำกัดการใช้งานหยวนดิจิทัล เนื่องจากทางรัฐบาลหวาดระแวงว่าสกุลเงินดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหลีกหนีการคว่ำบาตร และยังเป็นการลักลอบนำข้อมูลส่วนตัวของประชาชนในประเทศไปใช้อีกด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ในระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งในช่วงที่ผ่านมา ทางรัฐบาลยังได้สั่งห้ามไม่ให้นักกีฬาชาวอเมริกันเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองใช้หยวนดิจิทัลภายในงานกีฬา รวมไปถึงยังแนะนำให้พวกเขาพกมือถือที่ล้าสมัยไปแทน เนื่องจากกังวลที่จะถูกทางหน่วยงานในประเทศจีนล้วงข้อมูลบางอย่างออกไปได้นั่นเอง
จีนยังคงเดินหน้าโปรโมท “หยวนดิจิทัล” อย่างต่อเนื่อง
สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรก ๆ ของโลกที่ได้ริเริ่มโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) และทดลองหยวนดิจิทัลครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายน ปี 2019 ที่ผ่านมา ก่อนจะดำเนินการทดสอบการทำงานของเหรียญด้วยการเปิดให้ประชาชนบางกลุ่มได้มีส่วนร่วมในการทดลอง จนประสบความสำเร็จมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อนำหยวนดิจิทัลไปใช้จำนวนมาก
พร้อมกันนี้ทางรัฐบาลจีนยังได้ออกมาโปรโมทการนำ CBDC สกุลดังกล่าวไปใช้ชำระเงินข้ามพรมแดน ผ่านการร่วมมือระหว่างธนาคารกลางแห่งฮ่องกง, สิงคโปร์ และอีกหลายหลายประเทศอีกด้วยเช่นเดียวกัน แม้ว่าทางด้านสหรัฐอเมริกาจะออกมาแสดงทีท่าไม่ไว้วางใจต่อการรุดหน้านำเหรียญออกมาใช้อย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ทว่ารัฐบาลจีนยังคงไม่มีทีท่าจะออกมาโต้ตอบถึงประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
นี่อาจจะเป็นการประกาศกร้าววางตัวเป็นศัตรูในตลาดดิจิทัลระหว่างสหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้