อัตราเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงขึ้นในรอบ 3 ทศวรรษ ส่งผลให้ BTC ทำจุดสูงสุดตลอดกาล (All-time high) อีกครั้ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ ซึ่งออกมาสูงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ ส่งผลให้ตลาดคริปโตพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนบางคนมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อหลักของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบสามทศวรรษ นอกจากนี้เมื่อชั่วโมงที่ผ่าน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคฉบับล่าสุดสำหรับสินค้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นถึง 6.2% ในช่วง 12 เดือน ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ตัวเลขนี้ออกมาสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่า ดัชนี CPI เดือนตุลาคมจะเพิ่มขึ้น 5.9% 

อัตราเงินเฟ้อเป็นตัวเลขที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดอย่างใกล้ชิดจากเทรดเดอร์สกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากนักลงทุน Bitcoin หลายคนกล่าวว่าสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีอุปทานจำกัด สามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้

ราคาของบิตคอยน์ (BTC)เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปีนี้ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนการการเพิ่มขึ้นของคริปโตเครอ์เรนซีในวงกว้างใน ซึ่งล่าสุดมูลค่าตลาดคริปโตโดยสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเลยทีเดียว

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน ข้อจำกัดในการขนส่ง และพื้นที่คลังสินค้าที่จำกัด อันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าอาจทำให้ราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ปัญหาในตลาดแรงงานกดดันให้ค่าแรสูงขึ้น บริษัทมักจะพยายามส่งต่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเหล่านี้ให้กับผู้บริโภคในรูปแบบของราคาขายปลีกที่สูงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า การพิมพ์เงินจำนวนหลายล้านล้านดอลลาร์จากธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา อาจมีส่วนทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งสนับสนุนการลงทุนในbitcoin ต่อไป เนื่องจากมีอุปทานที่จำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น

ราคาบิตคอยน์แตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) อีกครั้ง

หลังจากที่บิตคอยน์ (BTC) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดได้ทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ 69,000 ดอลลาห์เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา

ขณะที่รายงาน BTC/USDT กำลังซื้อขายที่ประมาณ 6360.76 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 1.25% ขณะที่ Ethereum (ETH) ซื้อขายที่ 4,827.37 ดอลลาห์ โดยเพิ่มขึ้น 0.42% ในวันนี้

ขณะน้ีเหล่านักเทรดกำลังจับตามองอย่างใจจดใจจ่อต่อไปว่า ในที่สุดบิตคอยน์จะทะลุระดับแนวต้านต่อไปที่ 70,000 ดอลลาห์ได้หรือไม่ ซึ่งเราหวังว่าตลาดกระทิงจะดำเนินต่อไป 

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ