ยิ่งศึกษา Bitcoin ยิ่งทำให้อยากลงทุนมากขึ้น

Anthony Scaramucci อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว แถมยังเป็นผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Skybridge Capital บริษัทจัดการสินทรัพย์สัญชาติมะกันระดับแนวหน้าในเวทีโลก ได้ออกมาแบ่งปันความคิดเห็นของเขาว่า สาเหตุใดที่ทำให้ผู้คนมากมายที่ “เคย” คลางแคลงใจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลชิ้นโบว์แดงของ Satoshi Nakamoto อย่าง Bitcoin (BTC) นั้นเปลี่ยนแปลงมุมมองของพวกเขา และหันกลับมาสนับสนุนสกุลเงินคริปโทอันดับ 1 นี้ ซึ่งเขาอธิบายว่าส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้คนเหล่านั้นได้ศึกษา Bitcoin อย่างถ่องแท้นั่นเอง

ความสำคัญของการศึกษา Bitcoin เชิงลึก

ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC นั้น Scaramucci ชี้ให้เห็นว่า เหล่าผู้ที่ “ทำการบ้าน” หรือการหันมาศึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอย่างจริงจัง ท้ายที่สุดก็มักจะ “หลงใหล” ในศักยภาพอันแสนยอดเยี่ยมของมันอยู่เสมอ ซึ่งระหว่างการอธิบาย เขาได้นำชื่อของ Ray Dalio ชายผู้เคยหวาดระแวงต่อ BTC มาเป็นตัวอย่างของผู้ที่เปลี่ยนความคิดเมื่อเขานั้นมีความรู้ในสิ่ง ๆ หนึ่งมากขึ้น

“คุณต้องทำการบ้านกับ Bitcoin สักหน่อย ต้องเข้าใจว่าแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไร” เขากล่าว “ใครก็ตามที่หมั่นทำการบ้าน (ศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin อยู่เสมอ) … ท้ายที่สุดก็จะลงเอยด้วยการลงทุนในมัน คุณลองดู Ray Dalio ชายผู้เคยหวาดระแวงต่อ Bitcoin สิ ตอนนี้เขากลายเป็นนักลงทุน Bitcoin ไปแล้ว”

Scaramucci ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เหล่านักลงทุนรายใหญ่อื่น ๆ ซึ่งรวมไปถึง Paul Tudor Jones และ Stanley Druckenmiller ซึ่งพอร์ตโฟลิโอของพวกเขานั้นถือ Bitcoin เอาไว้ “คนพวกนี้เก่งมาก ๆ พวกเขาทำการบ้านอย่างหนัก และสรุปว่าพวกเขาจำเป็นต้องเป็นเจ้าของบิตคอยน์” Scaramucci กล่าว

การเปลี่ยนใจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นเหล่านักลงทุน และนักวิเคราะห์ชื่อดังจำนวนมากเปลี่ยนมุมมอง และความคิดเห็นของพวกเขากับ Bitcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพที่ชัดเจนของสกุลเงินดิจิทัลอันดับที่  1 นี้ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ๆ ของการ “เปลี่ยนใจ” และหันมาสนับสนุน BTC นั้นก็คือการที่บริษัทวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่าง Goldman Sachs ผู้ซึ่งบอกกับนักลงทุนย้อนกลับไปในปี 2020 ว่า Bitcoin ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ทุกวันนี้พวกเขาได้กลายเป็นหนึ่งในสถาบันการธนาคารหลักที่ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin แก่เหล่าลูกค้าระดับท๊อปของพวกเขา

ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของ Bitcoin นั้นเกิดจากการถูกวางรากฐานอันแสนแข็งแกร่ง ด้วยจุดเด่นที่ถูกออกแบบให้มีอุปทานจำกัดที่ 21 ล้าน BTC (ซึ่ง ณ ปัจจุบัน มากกว่า 18 ล้าน BTC นั้นหมุนเวียนอยู่ในระบบแล้ว) แถมยังไม่มีผู้ใดมีอำนาจเด็ดขาดในสกุลเงินนี้ เพราะทุกอย่างถูกควบคุมโดยเหล่าผู้เข้าร่วมเครือข่ายจัดการทั่วโลก ซึ่งสะท้อนถึงการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง

เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าใน Bitcoin Whitepaper ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2008 และเขียนโดย Satoshi Nakamoto โดยเจ้าเอกสารไวท์เปเปอร์นี้เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ Scaramucci แนะนำสำหรับทุกคนที่ต้องการศึกษา และทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Bitcoin