ศาลจีน ลั่น! เหรียญ Stablecoins ไม่ใช่เงิน
ศาลจีนออกมาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจริงจังกับการกวาดล้างคริปโตมากเพียงใด โดยพวกเขาได้ย้ำอีกครั้งว่า Cryptocurrencies ทั้งหลายรวมทั้งเหรียญ Stablecoins นั้นไม่ใช่เงินที่ถูกกฎหมายในประเทศ
ศาลจีนออกมาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจริงจังกับการกวาดล้างคริปโตมากเพียงใด โดยพวกเขาได้ย้ำอีกครั้งว่า Cryptocurrencies ทั้งหลายรวมทั้งเหรียญ Stablecoins นั้นไม่ใช่เงินที่ถูกกฎหมายในประเทศ
เป็นเวลาประมาณหนึ่งปีแล้วที่ “พี่จีน” หรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน หนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกออกมาสั่งแบนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งการแบนในครั้งนี้นั้นมี “ความจริงจัง” มากกว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา จนบริษัทคริปโตมากมายต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีออกมาหาฐานที่มั่นใหม่แทน
ทั้งนี้ทางพี่จีนก็ได้แสดงให้เห็นถึงความจริงจังที่ว่านี้อีกครั้ง โดยทางศาล Chaoyang ในกรุงปักกิ่งได้ออกมาย้ำอีกครั้งว่า Cryptocurrencies ทั้งหลายรวมทั้งเหรียญ Stablecoins นั้นไม่ใช่เงินที่ถูกกฎหมายในประเทศ
ต้นตอขอการพูดถึงเหรียญ Stablecoins
ศาล Chaoyang แห่งรุงปักกิ่งได้ทำการตัดสินข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการที่พนักงานอาวุโส และผู้ถือหุ้นสองรายของบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งจ่ายค่าจ้างเป็นเหรียญ Stablecoins Tether (USDT)
ตามที่รายงานโดยสำนักข่าวท้องถิ่นอย่าง Beijing Daily ข้อพิพาทเกิดมาจากการที่โจทก์นามว่า Shen ต้องการรับรายได้ของเขาหลังจากให้บริการบริษัทที่ถูกฟ้องเป็นเงินหยวน (เหรินหมินปี้ : Renminbi) ซึ่งทาง Hu และ Deng ที่ถือเป็นเจ้าของบริษัท และจำเลยในคดีความนี้ ก็ต่อสู้ว่าพวกเขาได้จ่ายเงินค้างชำระ และผลประโยชน์ทั้งหมดที่ Shen ร้องขอแล้ว
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนของพนักงานอัยการพบว่าทางจำเลยได้จ่ายเงินแล้วจริง แต่ทว่าเงินดังกล่าวถูกจ่ายออกไปเป็นสกุล USDT ซึ่งเป็นเหรียญที่ออกโดย Tether Holdings Ltd.
เหรียญ Stablecoins ไม่มีวันเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย!
คดีความข้างต้นได้ทำการพิจารณาอย่างรอบด้านจนครอบคลุมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด และพบปัจจัยหลัก ๆ 2 ประการด้วยกัน ได้แก่
- ข้อกำหนดของ Shen ที่มีความปราสงค์จะรับเงินเป็นสกุลเงินเหรินหมินปี้
- การที่ USDT ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ได้ออกโดยธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBoC)
จึงทำให้ศาล Chaoyang ตัดสินให้ Shen ชนะคดี และสั่งให้ Hu และ Deng จ่ายเงินแก่ Shen ในรูปแบบของ เหรินหมินปี้ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 270,000 หยวน
นี่เป็นตัวอย่างชั้นดีเลยว่าการรับเงินเป็น USDT นั้นอาจ “ไร้ค่า” ในจีนแผ่นดินใหญ่ในเวลานี้ เนื่องจากผู้ให้บริการทางการเงินตามกฎหมายของจีนทุกรายปฏิบัติตามคำสั่งของ PBoC ในการแบนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล เพื่อหลีกเลี่ยงการลงดาบจากภาครัญ ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีชั้นนำ ไม่เว้นแม้แต่ Huobi และ Binance หอบผ้าหอบผ่อนหนี้ออกจากประเทศ
Stablecoin ที่ไม่ Stable
ปัญหาหลัก ๆ ของวงการ Stablecoin ในช่วงหลังมานี้ ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุหลักเดียวกัน นั่นก็คือ เหตุการณ์การล่มสลายของ Terra ที่ซึ่งเหรียญ UST หลุดจากการตรึงมูลค่าอย่างย่อยยับในช่วงเวลาสั้น ๆ และสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดในวงกว้างจนถึงปัจจุบัน โดยคิดเป็นความเสียหายมูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์
นอกเหนือจากความเสียหายทางการเงินแล้ว การล่มสลายของ Terra ยังส่งผลร้ายโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของ Stablecoin ทั้งในสายตานักลงทุน และสายตาของเหล่าผู้คุมกฎนานาประเทศ
ไม่ใช่แค่เพียงพี่จีน แต่แบงก์ชาติอังกฤษ ยังเป็นอีกหน่วยงานที่ออกมาตี Stablecoin ทั้งยังเล็งว่าการออกกฎระเบียบ Crypto ในปัจจุบันล้วนเต็มไปด้วยช่องโหว่ ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อโลกการเงินอย่างช้า ๆ