Powercrypto Holdings ลุยเปิดเหมือง BTC และ ETH ในฮ่องกง

Powercrypto Holdings ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บล็อกเชนอย่าง Powerbridge Technologies ได้ประกาศเปิดตัวโครงการเปิดเหมืองขุดคริปโตเคอเรนซีที่ยั่งยืนสำหรับ Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) ในฮ่องกง

เปิดเหมืองเพื่อผสานการทำกำไร และการรักษาสิ่งแวดล้อม

ตามประกาศของ Powercrypto Holdings ระบุว่าความทะเยอทะยานสูงสุดของพวกเขาซึ่งเป็นหัวใจหลักในการริเริ่มโครงการนี้ก็คือการเพิ่มระดับอัตราแฮช BTC และ ETH ทั่วทั้งตลาดอเมริกาเหนือ และเอเชีย

อย่างไรก็ตามทาง Powercrypto ไม่ได้คำนึงถึงด้านการสร้างผลกำไรจากการขุดเพียงอย่างเดียว เพราะทิศทางของการจัดตั้งเหมืองดังกล่าวนี้ยังถูกวางให้ใส่ใจมิติด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญอีกด้วย ซึ่งสะท้อนได้จากการใช้พลังงานที่ยั่งยืนตลอดทั้งกระบวนการของโครงการ

Stewart Lor ประธานของ Powerbridge Technologies ได้แบ่งปันความคาดหวังของบริษัทของเขาสำหรับอนาคตของโครงการริเริ่มนี้ ทั้งจากมุมมองทางการเงิน และสิ่งแวดล้อม

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับการเปิดตัวโครงการ และการตั้งจุดยืนของเราในฐานะธุรกิจระดับโลกในธุรกิจการขุดคริปโตเคอเรนซี เราคาดว่ากองเรือขุดคริปโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพสูงของเราจะช่วยเร่งรายได้ของเราอย่างมีนัยสำคัญ”

ทั้งนี้บริษัทวางแผนที่จะใส่แท่นขุดเจาะระดับเฟิร์สคลาสทั้งหมด 2,600 แท่น เข้าไปในโครงการดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยเครื่องขุด BTC 600 เครื่องที่ทำงานที่อัตราแฮชที่ 60 PH/s รวมถึงเครื่องขุด ETH อีก 2,000 เครื่อง ซึ่งควบคุมพลังของอัตราแฮชที่ 1,000 GH/วินาที

ฮ่องกงเปิดรับคริปโตอย่างมาก

นอกเหนือจากการมาเยือนของ Powercrypto Holdings แล้ว ทางการแห่งมหานครของโลกเอเชียยังแสดงออกถึงการเปิดรับคริปโตในมิติอื่น ๆ อีกเช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางฮ่องกงหรือ HKMA ได้ออกเอกสารไวท์เปเปอร์อย่างเป็นทางการที่มีใจความสำคัญคือการพยายามทำการวิจัย และพัฒนาเพื่อประเมินความเป็นไปได้ของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าดอลลาร์ฮ่องกงดิจิทัล (e-HKD) โดยวางแผนว่าจะใช้เวลาถึงหนึ่งปีเต็ม

เอกสารไวท์เปเปอร์ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ “Fintech 2025” ของธนาคารกลางฮ่องกง ซึ่งรายละเอียดในเอกสารได้เน้นไปยังการเฟ้นหาทิศทางเชิงกลยุทธ์เพียงหนึ่งเดียวในการ “เสริมความแข็งแกร่ง” ให้กับงานวิจัยเกี่ยวกับ CBDC โดยมีเป้าหมายเพื่อการคาดการณ์อนาคตของฮ่องกง และการพัฒนาวิธีการลดผลกระทบจาก CBDC