อ.ตั๊มเตือน! ตอนนี้ไม่ต้องรีบ อาจต้องพักฟื้นอีก 'อย่างน้อย 2 ปี’ ลั่น เก็บเงินเย็นรอ!
‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ ออกโรงเตือน! ชี้ตอนนี้ "ยังไม่ต้องรีบ" และอาจใช้เวลาพักฟื้นอีกอย่างน้อย 2 ปี ตอนนี้รีดหนอง ตัดอาหารเลี้ยงเหรียญมะเร็ง ลั่น "เก็บเงินเย็นรอ"
‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ ออกโรงเตือน! ชี้ตอนนี้ "ยังไม่ต้องรีบ" และอาจใช้เวลาพักฟื้นอีกอย่างน้อย 2 ปี ตอนนี้รีดหนอง ตัดอาหารเลี้ยงเหรียญมะเร็ง ลั่น "เก็บเงินเย็นรอ"
‘พิริยะ สัมพันธารักษ์’ หรือ ‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ ออกโรงเตือนผ่าน Facebook ส่วนตัว Piriya Sambandaraksa ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ระบุว่า
ไม่ต้องรีบร้อนกันมากนะครับ คาดว่าหลังจากเดรนน้ำเน่าน้ำหนองออกแล้ว ต้องพักฟื้นตัวอีกอย่างน้อยสองปี ตอนนี้รีดหนอง ตัดอาหารเลี้ยงเหรียญมะเร็งไปก่อน
พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “#เตือนตัวเองเนี่ยแหละ” และแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวว่า “เก็บเงินเย็นรอ #ไว้ไปเที่ยวญี่ปุ่น”
แม้ว่า ‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ จะไม่ได้ระบุว่าการออกมาเตือนในครั้งนี้จะต้องการสื่อถึงประเด็นใด แต่ก็ ‘คาดว่า’ จะหมายถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบัน และน้ำเน่าหรือมะเร็งที่ระบุในโพสต์ก็น่าจะหมายถึงบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องคริปโตต่างๆ ที่กำลังพบปัญหาจากการบริหารงานอย่างไม่สุจริต อย่างเช่นกรณีของ FTX เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ - FTX
เช่นเดียวกับที่ระบุว่า “อาจต้องพักฟื้นอีกอย่างน้อย 2 ปี” ก็คาดว่าจะหมายถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งก็จะสอดคล้องกับ Bitcoin halving ที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะเป็นชนวนจุดให้ราคา Bitcoin และคริปโตเข้าสู่ตลาดขาขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในทุกๆ 4 ปี
บทความที่เกี่ยวข้อง - วิเคราะห์กราฟ BTC ย้อนหลัง 10 ปี เรามาถึงจุดจบ 'ตลาดขาลง' แล้วหรือยัง?
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว