Exchange

อ.พิริยะ แจงเหตุผล ทำไม 'Bitkub' ปลอดภัยกว่า 'Binance' เวลานี้ - หวังโดนถอนเงินเยอะๆ เป็นบททดสอบ

Rectangle Template   2022 12 14 T133921.373

‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ อธิบายเหตุผลอย่างละเอียด หลังชี้ Bitkub ปลอดภัยว่า Binance ณ เวลานี้ พร้อมหวัง "คนจะถอนเงินออกจาก Binance กันเยอะๆ" เป็นบททดสอบเว็บเทรดอันดับ 1 ของโลก

สืบเนื่องจากวันก่อนหน้า (13 ธันวาคม) ‘Binance’ เว็บเทรดคริปโตอันดับ 1 ของโลกถูกจับตามองหลังมีข่าวเสียๆ หายๆ ออกมาหนัก จนทำให้นักลงทุนแห่ถอนเงิน ราคาเหรียญหลักของแพลตฟอร์มอย่าง BNB และ BUSD ราคาร่วงหนัก ท่ามกลางเหรียญอื่นๆ ที่เขียวยกกระดาน

ในวันเดียวกัน ‘พิริยะ สัมพันธารักษ์’ หรือ ‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ นักลงทุน Bitcoin ชาวไทยชื่อดัง เปิดเผยมุมมองส่วนตัวต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุในทำนองว่าในขณะนี้ Bitkub อาจปลอดภัยกว่า Binance ก็เป็นไปได้

อ่านข่าวต่อ - ‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ ชวนคิดกรณี Binance หลังเริ่มมีข่าวไม่ดี มองตอนนี้ Bitkub อาจปลอดภัยกว่า!

วันที่ 14 ธันวาคม อ.ตั๊ม พิริยะ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงความคิดเห็นดังกล่าวอีกครั้งผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว หลังจากที่ความคิดเห็นดังกล่าวถูกพูดถึงในวงกว้าง พร้อมกับความคิดเห็นนักลงทุนที่แตกต่างออกไป

สืบเนื่องจากที่เราได้ไปคอมเมนต์ตอบคอมเมนต์ในโพสต์ที่พูดถึงโพสต์อีกโพสต์ ว่าการเก็บคริปโตในบิตคับ อาจปลอดภัยกว่า Binance ก็ได้นั้น มาชี้แจงเหตุผลให้เป็นประโยชน์โดยทั่วกันสักเล็กน้อยครับ

ดูก่อน! ว่าความเสี่ยงของคุณคืออะไร

อ.พิริยะ มองว่าถ้าหากความเสี่ยงหมายถึงความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน หรือความเสี่ยงในเรื่องของการซื้อขาย Bitkub อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่า Binance เนื่องจากเอ็กซ์เช้นจ์ไทยต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และมีสภาพคล่องไม่มากเท่า Binance ในการซื้อขาย

แต่ถ้าหากความเสี่ยงในนี่นี้หมายถึง ‘ความเสี่ยงในการล้มละลายด้วยการขาดสภาพคล่อง’ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อ exchange มีการบริหารเงินผิดพลาด ก็ถือว่า Bitkub ปลอดภัยกว่า Binance ในขณะนี้ 

คราวนี้มีคนบอกว่า ถอนมา Bitkub ปลอดภัยกว่ามั๊ย จึงตอบว่า ในสภาพสถานการณ์นี้ ปลอดภัยกว่าครับ เนื่องจาก Exchange ในไทยมีกฎหมายควบคุมที่เข้มงวด ไม่สามารถเปิดเทรด margin / futures/ options / perpetuals / cfds / derivatives ต่าง ๆ ได้ และจำเป็นต้องเก็บเงินของลูกค้าแยกส่วนให้ชัดเจน และยังโดนบังคับให้เก็บ 90% เอาไว้ใน cold storage เพื่อป้องกันการแฮคอีก

ข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้ exchange ในไทย ไม่มีผลิตภัณท์ทางการเงินใด ๆ ไปแข่งขันกับใครเขาได้ แต่ในเวลาที่ทุก derivatives ทุก earning program กำลังถูกท้าทาย มันกลับกลายเป็นความมั่นคงปลอดภัยนะ

อย่างไรก็ตามอ.พิริยะ ก็ยังย้ำว่าสุดท้ายแล้วการเก็บคริปโตในระยะยาวที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นการเก็บไว้กับตนเองหรือการ ‘Self custody’ ที่ผู้ใช้งานเป็นผู้เก็บรักษาทั้ง Public key และ Private key ไว้กับตนเอง

พร้อมทิ้งท้ายอย่างชัดเจน “หวังว่าคนจะถอนเงินออกจาก Binance กันเยอะๆ” เพื่อเป็นการทดสอบ Binance ทางอ้อมว่าเอ็กซ์เช้นจ์อันดับ 1 ของโลกจะสามารถรองรับการถอนเงินในปริมาณมากได้หรือไม่

ซึ่งถ้าหากสามารถรองรับได้ก็จะถือว่าเป็น Exchange ที่มีมาตรฐาน แต่ถ้าไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นการกำจัดเนื้อร้ายก่อนที่จะใหญ่ไปกว่านี้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
คาดการณ์ราคา Bitcoin หลังช่วง Halving! พร้อมเผยเป้าหมาย ที่เหรียญอาจทำราคาพุ่งไปถึง
98% ของธนาคารกลางทั่วโลก กำลังเตรียมใช้ CBDC
วาฬในเครือข่าย Solana ใช้เงินกว่า 4.9 ล้านดอลลาร์ ในการเข้าซื้อเหรียญมีม PUPS