🇹🇭 ข่าวในประเทศ

'เพื่อไทย' เปิด 3 นโยบาย Blockchain, NFT, CBDC พลิกฟื้นประเทศปี 70

Rectangle Template   2022 12 07 T095305.726

'พรรคเพื่อไทย' เผยนโยบายพลิกฟื้นประเทศปี 2570 พบ 3 ข้อเกี่ยวข้องกับ Blockchain, NFT, CBDC หวังยกระดับอุตสาหกรรมเกษตร - แก้คอร์รัปชัน

พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดเผยนโยบายพลิกฟื้นประเทศปี 2570 โดย ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรค ณ การประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา

แพทองธาร ได้กล่าวถึงนโยบายพรรค 10 ข้อสำหรับพลิกฟื้นประเทศปี 2570 โดย 3 จาก 10 ข้อก็มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่าง NFT และ CBDC

ในด้านการเกษตร พรรคเพื่อไทยจะนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรในด้านการทำเกษตรกรรม อย่างเช่นเทคโนโลยี AI, เทคโนโลยี Precision Agriculture รวมไปถึงการใช้ NFT เพื่อการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรล่วงหน้า ซึ่งจะเป็นการดึงดูดชาวต่างชาติมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับตลาด

ในด้านการคอร์รัปชัน พรรคมีความต้องการที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัลโดยธนาคารกลาง หรือ CBDC (Central Bank Digital Currency) ในการป้องกันการคอร์รัปชันของนักการเมือง รวมไปถึงสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนมีวอลเล็ทดิจิทัลเป็นของตนเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง - รู้จัก 'บาทดิจิทัล' CBDC ไทย ก่อนจะตามเขาไม่ทัน

ในส่วนของบล็อกเชน พรรคเพื่อไทยเสนอว่าประเทศไทยควรที่จะพัฒนาบล็อกเชนของประเทศ ทั้งนี้ยังสามารถนำมาใช้เป็นพื้นที่สำหรับซื้อขายสินค้าทางการเกษตร รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ และเป็นช่องทางสำหรับการระดมทุนของธุรกิจ Start up อีกด้วย

อ้างอิง: พรรคเพื่อไทย, ประชาไท

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง