ตลาด DeFi โตไม่หยุด! TVL แตะ 2.23 แสนล้านดอลลาร์ เรียบร้อย
Total Value Locked (TVL) ในโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ หรือ DeFi ได้จารึกความสำเร็จครั้งใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์อย่างต่อเนี่อง โดยมูลค่าของมันนั้นทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง และถูกบันทึกเอาไว้ที่จำนวน 2.23 แสนล้านดอลลาร์
Total Value Locked (TVL) ในโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ หรือ DeFi ได้จารึกความสำเร็จครั้งใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์อย่างต่อเนี่อง โดยมูลค่าของมันนั้นทะลุจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง และถูกบันทึกเอาไว้ที่จำนวน 2.23 แสนล้านดอลลาร์
แม้ก่อนหน้านี้ทาง CryptoSiam ได้มีการรายงานถึงการทยานไปแตะจุดสูงสุดตลอดการ (All-time High ATH) ของมูลค่ารวมที่ล็อกเอาไว้ (Total Value Locked – TVL) ในภาคส่วนการเงินแบบไร้ตัวกลาง หรือ Decentralized Finance (DeFi) ซึ่งเคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งก่อนที่ 2.08 แสนล้านดอลลาร์ แต่ทว่าเพียงระยะเวลาไม่ถึง 2 อาทิตย์วงการการเงินแบบไร้ตัวกลางก็สามารถจารึกความสำเร็จบนหน้าประวัติศาสตร์ไปอีกขั้น ทั้งนี้หากอ้างอิงข้อมูลจาก DeFiLlama มูลค่ารวมที่ล็อกเอาไว้นั้นได้ทะลุ 2.23 แสนล้านดอลลาร์ ไปแล้ว
เราเห็นอะไรบ้างจากการเพิ่มขึ้นของ TVL ในครั้งนี้?
ถึงแม้ความน่าสนใจของระบบการเงินแบบไร้ตัวกลางนั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้มันเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2020 แต่ทว่าความครึกครื้นที่เรากำลังพบเห็นในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลเองก็มีส่วนช่วยให้ระบบดังกล่าวเติบโตขึ้นไม่แพ้กัน โดยการที่มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลซึ่งขึ้นไปอยู่ที่ 2.42 ล้านล้านดอลลาร์ (ณ ขณะที่เขียนบทความนี้) นั้นส่งผลโดยตรงต่อระบบนิเวศ DeFi อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้จากข้อมูลยังระบุอีกว่า Ethereum Blockchain นั้นก็ยังคงขึ้นแท่นเป็นหัวหอกในการนำพามาซึ่งการเติบโตในอุตสาหกรรมการเงินแบบกระจายอำนาจ เพราะมันเปรียบเสมือนเป็นโปรโตคอลตั้งต้นของภาคส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ตามหากภาคส่วนการเงินแบบไร้ตัวกลางนั้นขาดเครือข่าย Blockchain สาธารณะอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Binance Smart Chain (BSC), Avalanche และ Fantom ไปล่ะก็... ภาคส่วนนี้ก็จะไม่มีทางเติบโตมาได้ถึงขนาดนี้เลย
ซึ่งการจัดอันดับโดย DeFiLlama ได้ระบุว่า Curve Finance ซึ่งกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์บน Ethereum ถือเป็นโปรโตคอลที่โดดเด่นที่สุดในวงการ และปัจจุบันมีมูลค่า TVL รวม 1.714 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดถูกล็อกบนโปรโตคอลของ Curve Finance ก็คือ Ethereum
ทางด้านโปรโตคอลที่เน้นการกู้ยืม (Lending) อย่าง Aave ก็ได้ตามมาติด ๆ เป็นอันดับที่ 2 ด้วย TVL มูลค่า 1.669 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เหล่า Top 5 ที่เหลืออีก 3 รายก็จะได้แก่ MakerDAO, Wrapped Bitcoin และ InstaDapp ตามลำดับ
ตลาด DeFi โต จะส่งผลต่อนักลงทุนกอย่างเรา ๆ อย่างไร?
การถือกำเนิดของโคโรนาไวรัสนั้นได้สร้างภาระมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลก และมันทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องหันมากำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสภาวะฝืดเคืองดังกล่าว ซึ่งนั่นก็ได้ส่งผลโดยตรงต่อการวางหลักทรัพย์เพื่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล หรือแม้แต่การออมเงินไว้เฉย ๆ เพราะมันทำให้เหล่านักลงทุนทั้งรายใหญ่ และรายย่อนนั้นทำกำไรจากเงินในมือของพวกเขาได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม DeFi นั้นเป็นภาคส่วนที่สามารถส่งมอบตัวเลือกรูปแบบใหม่ ๆ ให้แก่นักลงทุนในวงกว้าง เนื่องจากมันสามารถทลายข้อจำกัดด้านการลงทุนภายในกระหลักได้ โดยในภาคส่วนนี้เราจะได้เห็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากเงินที่พวกเขาลงทุนไป ทั้งยังมีความสามารถในการลดอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อรูปแบบใหม่ ๆ อย่างการกู้ยืมด้วย Crypto ได้อีกด้วย ซึ่งหากตลาด DeFi โตยิ่งขึ้น ข้อเสนอที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นก็จะยิ่งมีความหลากหลาย และเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้ความเป็นอยู่ที่ดีของนักลงทุนไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับรัฐใดรัฐหนึ่งอีกต่อไป