มองโกเลียในอาจจะปิดฟาร์มขุดคริปโตภายในเดือนเมษายน

หน่วยงานด้านการกำกับดูแลของ “เขตปกครองตนเองของจีนในมองโกเลีย” หรือเรียกว่า มองโกเลียใน (Inner Mongolia) ได้มีคำสั่งการโดยด่วนให้ปิดโรงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำเหมืองขุดสกุลเงินดิจิตอลในท้องถิ่นทั้งหมด โดยการออกคำสั่งในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานในภูมิภาคลง

โดยทางคณะกรรมการการพัฒนา และปฏิรูปแห่งชาติมองโกเลียในหรือ National Development and Reform Commission (NDRC) ได้ออกข้อเสนออย่างเป็นทางการในการปิดฉากการดำเนินการขุดคริปโตทั้งหมดในท้องถิ่นซึ่งอ้างอิงตามกฎการประหยัดการใช้พลังงาน

นโยบายดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนเมื่อวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่แล้ว (25 กุมภาพันธ์) โดยฉบับร่างของคำสั่งดังกล่าวเสนอแนะให้ “กวาดล้าง และปิดโครงการขุดสกุลเงินเสมือนอย่างทั่วถึง” ภายในสิ้นเดือนเมษายน นอกจากนี้หน่วยงานดังกล่าวยังเสนอให้มีการห้ามมิให้มีโครงการขุด Cryptocurrency ใหม่ในภูมิภาคอย่างเข้มงวด โดย NDRC จะทำการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับร่างข้อเสนอฉบับนี้จนถึงวันพุธ (3 มีนาคม)

เมื่ออ้างอิงตามรายงานของ Reuters แล้ว ทางมองโกเลียในนั้นถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ของจีนแผ่นดินใหญ่ภายใต้การทบทวนการใช้พลังงาน และความเข้มข้นของพลังงานของปักกิ่งที่มีทั้งสิ้น 30 แห่ง ซึ่งไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการประหยัดพลังงานในปี 2019 ไปได้

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งการด้านการควบคุมพลังงานฉบับใหม่ ทางมองโกเลียในตั้งเป้าที่จะจำกัดการเติบโตของการใช้พลังงานไฟฟ้าไว้ที่ประมาณ 5 ล้านตันของถ่านหินมาตรฐานในปี 2021นอกจากนี้หน่วยงานดังกล่าวยังวางแผนที่จะลดความเข้มของพลังงาน ซึ่งก็คือปริมาณพลังงานที่ใช้ต่อหนึ่งหน่วยของการเติบโตทางเศรษฐกิจ - โดยเพิ่มขึ้นได้ 3% จากระดับพลังงานของปี 2020 เท่านั้น โดยจากการดำเนินงานระหว่างปี 2016 ถึงปี 2019 ความรุนแรงของพลังงานในภูมิภาคมีรายงานว่าเพิ่มขึ้นถึง 9.5% ในขณะที่การใช้พลังงานโดยรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 65ล้านตัน

มองโกเลียในได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักขุด Cryptocurrency เนื่องจากราคาไฟฟ้าที่ต่ำ อย่างไรก็ตามหน่วยงานท้องถิ่นได้วางแผนที่จะปราบปรามการดำเนินการขุดคริปโตในภูมิภาคในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยออกแถลงการณ์หลายฉบับเพื่อกลั่นกรองธุรกิจเหมืองแร่ในท้องถิ่นในเดือนสิงหาคม 2020 เจ้าหน้าที่ของมองโกเลียในได้พิจารณานโยบายใหม่ที่ป้องกันไม่ให้ผู้ขุด Crypto ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐ