Meituan พร้อมให้ชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัลแล้ว
Meituan เดลิเวอรี่ยักษ์ใหญ่ในจีนพร้อมให้ลูกค้าเชื่อมต่อแอปพลิเคชันเข้ากับ Wallet เพื่อชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัล
Meituan เดลิเวอรี่ยักษ์ใหญ่ในจีนพร้อมให้ลูกค้าเชื่อมต่อแอปพลิเคชันเข้ากับ Wallet เพื่อชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัล
Meituan ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่รายใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กลายเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เพิ่งให้การยอมรับการชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัล ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือ CBDC แล้ว โดยผู้ใช้งาน Meituan จะสามารถเชื่อมต่อ Wallet หยวนดิจิทัลเข้ากับแอปพลิเคชันของบริษัทเพื่อใช้ชำระค่าบริการรายวันตามจุดประสงค์ต่าง ๆ เช่น การจองโรงแรม, เรียกรถแท็กซี่ และการชำระเงินในร้านอาหาร เป็นต้น
จากข้อมูลของทาง Meituan ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้บริการแอปพลิเคชันรายวันที่ล่าสุดสามารถทุบสถิติปริมาณการทำธุรกรรมไปได้มากถึง 660 ล้านรายการในปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ ซึ่งการผสานแอปพลิเคชัน e-CNY เข้ากับระบบการชำระเงินของบริษัทจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้รัฐบาลประจำกรุงปักกิ่งสามารถทดสอบความเป็นอธิปไตยทางการเงินให้กับสกุลเงินดิจิทัลได้ในวงกว้างมากขึ้นนั่นเอง
Meituan คือใคร?
Meituan เป็นแอปพลิเคชันจัดส่งอาหาร และให้บริการเดลิเวอรี่หลากหลายรูปแบบรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีนมีมูลค่าสูงถึง 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 3 ของประเทศรองลงมาจาก Alibaba และ Tencent
อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา The Wall Street Journal ได้ออกมารายงานข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจีนเตรียมสั่งปรับ Meituan ในข้อหามีอำนาจเหนือตลาดด้วยเงินมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทางด้านซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Wang Xing ก็ได้ออกมาตอบโต้ และท้าทายอำนาจของประธานาธิบดี Xi Jinping ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียด้วยบทกวีบทหนึ่ง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วทางบริษัทก็ต้องดำเนินการลบออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา
ไม่ใช่แค่เพียง Meituan เท่านั้นที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ แม้แต่บริษัทรายใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง Alibaba ก็ถูกฟ้องร้อง และสั่งปรับจากรัฐบาลจีน ส่งผลให้ทางองค์กรต้องออกมาปรับเปลี่ยนกฎระเบียบในการประกอบกิจการขึ้นมาใหม่ ซึ่งทำให้ผลประกอบการของบริษัทร่วงลงอย่างมากเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นทางด้าน Tencent เองก็ไม่รอดพ้นการเพ่งเล็งจากทางรัฐบาลที่ได้ออกมากล่าวหาว่าบริษัทเข้าข่ายผูกขาดตลาด และจำเป็นต้องดำเนินการจ่ายค่าปรับ และปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ตามที่ระบุไว้
จีนขึ้นแท่นหนึ่งในประเทศที่บุกเบิกการทดลองใช้ CBDC
สาธารณรัฐประชาชนจีนได้พัฒนา CBDC ของประเทศได้สำเร็จในปี 2019 และเริ่มดำเนินการทดลองใช้ในช่วง 2 ปีต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยเริ่มต้นทดลองจากการนำหยวนดิจิทัลไปใช้เป็นเงินสนับสนุนในการเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จากนั้นจึงได้ขยายการให้บริการอย่างกว้างขวางไปยังประชาชนนับล้านคน และธุรกิจอีกหลายพันแห่ง ซึ่งทางด้านหน่วยงานรัฐได้นำไปทดลงใช้งานร่วมกับตลาดค้าปลีกด้วยเช่นกัน จะเห็นได้จากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในจีน อย่าง WeChat และ JD.com ได้เข้าร่วมการทดลองนำ CBDC เข้ามาใช้กับการค้าปลีกด้วยเช่นเดียวกัน
ปัจจุบันสาธารณรัฐประชาชนจีนได้กลายเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่พัฒนา CBDC มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014 จนประสบความสำเร็จ และสามารถนำมาใช้ทดลองได้เป็นกลุ่มแรกของโลก ได้แก่ ประเทศเกาหลีใต้, สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส เป็นต้น อย่างไรก็ตามในช่วงปีที่ผ่านมาความเคลื่อนไหวจากอีก 91 ประเทศก็ได้เริ่มเดินตามรอยกลุ่มประเทศข้างต้นพร้อมศึกษา และ พัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางแล้วเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในระหว่างการร่วมหารือ และพิจารณาร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติถึงประโยชน์ และโทษของอธิปไตยทางการเงินของสกุลเงินดิจิทัล
รัฐบาลจีนเล็งให้ชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
Zou Lan ผู้อำนวยการแผนกการตลาดแห่งธนาคารกลางประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน (The People's Bank of China - PBOC) ระบุว่ามูลค่าการทำธุรกรรมโดยรวมผ่านแอปพลิเคชัน e-CNY นับตั้งแต่มีการเปิดให้ทดลองใช้งานจนถึงปัจจุบันนั้นมีมูลค่าสูงถึง 8.75 หมื่นล้านหยวน หรือ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา จำนวนร้านค้าเกือบ 10 ล้านรายได้เปิดใช้งาน Wallet หยวนดิจิทัลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้คนจำนวนมากต่างก็เชื่อมั่นว่ากระบวนการการทดลองที่แผ่ขยายอย่างรวดเร็วไปในหลากหลายอุตสาหกรรมจะทำให้ทางรัฐบาลตัดสินใจให้บริการ CBDC ในระหว่างการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน