เงินทุนสำรอง LUNA เหลือแค่ 313 BTC
LFG ออกแถลงการณ์เผยจำนวนเงินทุนสำรอง LUNA และหุ้นในครอบครอง ก่อนให้คำมั่นพร้อมชดเชยผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้น
LFG ออกแถลงการณ์เผยจำนวนเงินทุนสำรอง LUNA และหุ้นในครอบครอง ก่อนให้คำมั่นพร้อมชดเชยผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่เกิดขึ้น
มหากาพย์ความวุ่นวายในตลาดคริปโตยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ หลังจากที่ทีมนักพัฒนาอัลกอริทึมเหรียญ Stablecoin อย่าง UST และ LUNA ออกแถลงการณ์เผยถึงจำนวนเงินทุนสำรอง LUNA ทั้งหมดที่ยังคงเหลืออยู่ในรูปสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซี ที่เหลือเพียงแค่ 313 BTC เท่านั้น
เงินทุนสำรอง LUNA เริ่มร่อยหรอ
ตามข้อมูลที่ทาง Luna Foundation Guard ได้ออกมาแถลงการณ์แสดงให้เห็นว่าทางองค์กรได้นำสินทรัพย์ในรูปแบบของ Bitcoin (BTC) กว่า 99.61% หรือ เทียบเท่ากับ 80,081 BTC ออกไปใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลทำให้โดยทางองค์กรยังได้ออกมายืนยันถึงการนำเหรียญดังกล่าวออกมาขายในจำนวนกว่า 33,026 BTC หรือ รวมแล้วกว่า 1,164,018,521 $UST ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่น่าสนใจไปไม่แพ้กับการออกมาเทขาย Bitcoin ซึ่งเป็นเงินทุนสำรองขององค์กรในจำนวนมหาศาล ก็คือการตัดสินใจไม่ขายเหรียญ Binance Coin (BNB) หรือ Avalanche (AVAX) เลยแม้แต่เหรียญเดียว ทำให้ทางองค์กรยังคงถือครองเหรียญ BNB รวมกันทั้งหมด 40,000 โทเคน และ AVAX อีกกว่า 2,000,000 โทเคน
สาเหตุที่ทำให้ LUNA ต้องดึงเงินทุนสำรองออกมาใช้
เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการจัดการ และการนำคริปโตเคอร์เรนซีในทุนสำรองของ LFG ออกมาขายนั้นก็เพื่อช่วยค้ำจุนระบบนิเวศของ Terra ให้ยังคงดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดตามมาอย่างมากมาย แต่ทว่าทาง Luna Foundation Guard (LFG) ยังคงยืนยัน พร้อมออกมาให้คำมั่นสัญญาที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ถือเหรียญ UST ด้วยเงินทุนสำรองที่คงเหลืออยู่อย่างแน่นอน โดยจะเริ่มจากผู้ที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดก่อนนั่นเอง ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้ถือครองโทเคน LUNA ที่ได้รับผลกระทบก็ควรจะได้รับเงินชดเชยกลับเข้าสู่ Wallet ของพวกเขาภายในระยะเวลา 20 วันต่อจากนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเงินชดเชยก้อนดังกล่าวอาจจะไม่ได้มีมูลค่ามากเท่าไรนัก เนื่องจากมูลค่าเหรียญในช่วงก่อนหน้านี้ได้หล่นลงมาจากระดับเดิมอย่างมหาศาล
ประกาศข่าวปุ๊บราคาดิ่งปั๊บ
แน่นอนว่า หลังจากที่ทางองค์กรได้ออกมาประกาศแถลงการณ์จำนวนเงินทุนสำรองคงเหลือไปได้ไม่นาน ก็ได้ส่งผลให้มูลค่าของเหรียญ UST ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 0.08 ดอลลาร์สหรัฐในทันที จากเดิมอยู่ที่ 0.14 ดออลาร์สหรัฐ