นักเศรษฐศาสตร์ชี้ Libra ฝันสูงแต่อุปสรรคมากเกินรับมือ

Libra

โครงการ Libra นั้นเรียกได้เป็นโครงการ Stablecoin แรกที่มีแผนการพิมพ์เหรียญออกมาโดยองค์กรภาคเอกชน โดยที่สินทรัพย์ซึ่งใช้ในการอ้างอิงมูลค่าของเหรียญดังกล่าวนั้นไม่จำกัดแค่เพียงสกุลเงินระหว่างประเทศสกุลใดสกุลหนึ่ง แต่กลับเป็นกองทรัพย์สินที่ทางองค์กร Libra Association นั้นเป็นผู้บริหารจัดการเพื่อสร้างความเสถียรให้แก่มูลค่าของเหรียญดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เวลาได้ผ่านเลยไปนานนับปีตั้งแต่ทางโครงการได้มีการเผยแพร่ White Paper ซึ่งวางโครงสร้างการดำเนินการของโครงการดังกล่าว แม้ว่าจะได้ผ่านการแก้ไขเอกสารดังกล่าวไปแล้วหนึ่งครั้งแต่โครงการดังกล่าวก็ยังคงประสบปัญหาจากฝั่งรัฐบาลเนื่องจากความไม่ไว้วางใจในตัวองค์กร รวมทั้งการเข้ามาของสกุลเงินคริปโตดังกล่าวนั้นเป็นที่เห็นตรงกันว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างมากแน่นอน

ความเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหญ่

นาย Barry Eichengreen นั้นเป็นหนึ่งในศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย UC Berkeley ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในการประชุม Digital Unitize นั้นตัวเขาได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงทิศทางการดำเนินการของโครงการดังกล่าวว่าความหวังที่มีนั้นเริ่มจะริบหรี่ลงเรื่อยๆ จากปัญหาและแรงต้านจากฝั่งรัฐบาลทั่วโลก

ตัวเขาได้ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ขาดไปในการออกแบบโครงการ Libra รวมทั้งโครงการ Stablecoin อื่นๆในตลาด คือการที่พวกเขานั้นละเลยหลักเศรษฐศาสตร์ทางด้านนโยบายทางการเงิน รวมทั้งประวัติศาสตร์ทางการเงินที่ผ่านมา ซึ่งตัวเขานั้นมองว่าแนวคิดของ Stablecoin ยังคงมีจุดบอดอยู่มาก ตั้งแต่ความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีค่าเงินหากเหรียญเหล่านี้มีการนำสกุลเงินต่างประเทศมาอ้างอิงมูลค่าของตัวเหรียญเองไม่ว่าจะเป็นทั้งหมดหรือแค่นำมาอ้างอิงบางส่วนก็ตาม

นอกจากนี้แล้วเขายังชี้ให้เห็นถึงปัญหาในการขยายศักยภาพในการรองรับปริมาณธุรกรรมที่มากขึ้นหรือปัญหาทางด้าน Scalability ซึ่งจะมีต้นที่ทุนที่สูงมาก โดยเฉพาะกับเหรียญ Stablecoin ที่มีการอ้างอิงมูลค่ากับสกุลเงินระหว่างประเทศเท่ากับหรือมากกว่ามูลค่าที่ได้มีการออกเหรียญในระบบ

ปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

ถึงแม้ว่าโครงการ Libra นั้นจะสามารถเปิดตัวใช้งานได้สำเร็จก็ตามแต่ทางศาสตราจารย์ Barry ได้แสดงความเห็นว่าการเข้ามาของ Libra นั้นจะทำลายมาตรการและนโยบายทางการเงินของหลายประเทศ ทั้งยังเป็นช่องทางในการแก้ปัญหาของบางประเทศที่มีการผันผวนทางค่าเงินสูง โดยใช้สกุลเงิน Libra ที่มีความเสถียรมากกว่าแทนสกุลเงินของประเทศตนเอง

ทั้งนี้ ปัญหาที่ทางศาสตราจารย์นั้นยังไม่รวมถึงข้อสงสัยทางด้านเทคนิค เช่น มาตรการเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมซึ่งทาง Libra นั้นได้ตั้งเป้าในการควบคุมให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงกับข้อจำกัดทางด้านเงินสำรองเมื่อต้นทุนในการดำเนินการสูงขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นแล้วเรายังคงต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับโครงการ Stablecoin ของ Libra Association ที่ทางรัฐบาลทั่วโลกยังคงมีทีท่าไม่ต้อนรับอยู่นั่นเอง