Blockchain

การแฮ็ก DeFi ครั้งที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นบน Poly Network ด้วยความสูญเสียกว่า 610 ล้านดอลลาร์

Poly Network.png

และแล้วข่าวร้ายครั้งใหญ่ก็ได้เกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรมการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ซึ่งการแฮ็ก Defi ครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ถูกจารึกเอาไว้ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นบน Poly Network ซึ่งความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 610 ล้านดอลลาร์

Poly Network ซึ่งเป็นโปรโตคอลบล็อกเชนที่มีความสามารถในการดู และเข้าถึงข้อมูลผ่านระบบบล็อกเชนต่าง ๆ ทำให้บล็อกเชนเหล่านั้นสามารถทำงานร่วมกันได้แบบไม่มีตัวกลาง ได้ออกมาประกาศถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ของพวกเขา ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภาคอุตสาหกรรมการเงินแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Finance - DeFi) โดยข่าวร้ายครั้งใหญ่ที่ว่านี้ เกิดจากการที่แฮ็กเกอร์ได้เข้ามาบุกรุเครือข่ายดังกล่าว และการแฮ็กระบบ Decentralized Finance ครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นี้ทำให้ Poly Network ถูกโจรกรรมเงินไปกว่า 610 ล้านดอลลาร์

การ แฮ็ก DeFi ที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง

ด้วยการที่ Poly Network นั้นถือเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่รองรับ และสนับสนุนระบบ Binance Smart Chain (BSC), Ethereum และ Polygon นั้นจึงทำให้ยักษ์ใหญ่เครือข่ายบล็อคเชนทั้ง 3 นี้ได้ถูกล่วงล้ำพร้อมกันในคราวเดียว!

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางทีมงาน Poly Network ก็ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด และพวกเขาได้ทำการ “ประกาศศึก” กับเหล่าแฮ็กเกอร์ที่โจมตีแพลตฟอร์มเพื่อให้พวกเขาคืนเงินที่ขโมยมาก่อนจะสายเกินไป โดยทำการแชร์จดหมายเปิดผนึกบน Twitter อย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์ม ซึ่งในจดหมายระบุว่า

https://twitter.com/PolyNetwork2/status/1425123153009803267

“เรียน Hacker เราต้องการสร้างการสื่อสารกับคุณ และขอให้คุณส่งคืนทรัพย์สินที่แฮ็กไป จำนวนเงินที่คุณได้แฮ็กออกไปนั้นถือเป็นยอดสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ DeFi เลยก็ว่าได้ การบังคับใช้กฎหมายในประเทศใด ๆ จะถือว่านี่เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และคุณจะถูกตามล่าอย่างแน่นอน มันไม่ฉลาดมากสำหรับคุณที่จะทำธุรกรรมใด ๆ เพิ่มเติมจากเงินที่คุณขโมยมาจากสมาชิกชุมชน Crypto หลายหมื่นคน คุณควรคุยกับเราเพื่อหาทางแก้ไข”

นอกจากนี้ทาง Poly Network ก็ยังได้ทำการบล็อคการเคลื่อนไหวของ Address สามแห่งที่ได้มีการส่งเงินก้อนดังกล่าวแทบจะในทันทีที่พวกเขาทราบถึงการโจรกรรม

การรับมือการแฮ็ก DeFi นั้นยากลำบากไม่ใช่เล่น

ในความเป็นจริงแล้วการแฮ็กที่เกี่ยวข้องกับโปรโตคอล DeFi นั้นมีรูปแบบที่ค่อนข้างแตกต่างจากกรณีการแฮ็กในอดีตที่เคยพบในเหล่า Exchange แบบรวมศูนย์อย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่าหัวใจสำคัญของระบบ DeFi คือการ “กระจายอำนาจ” นั่นจึงทำให้ไม่มีใครสามารถควบคุมสามโปรโตคอลที่ถูกบุกรุกได้เลยเพราะมันเป็นเรื่องของ Smart Contract กับเงินของลูกค้า นั่นเอง

และด้วยความชาญฉลาดของระบบดังกล่าวจึงทำให้มีเพียงแค่ขั้นตอนในการติดตามเงินที่ถูกขโมยโดยเหล่าแฮ็กเกอร์เท่านั้นที่ทำได้โดยง่าย แต่ทว่าการพยายามกู้เงินคืนหากแฮ็กเกอร์ไม่ทำการเคลื่อนไหวใด ๆ เลยล่ะก็... นี่ถือเป็นงานหินเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ผู้นำในอุตสาหกรรม Crypto รวมถึง Changpeng Zhao ซีอีโอของบริการการแลกเปลี่ยนชื่อดังอย่าง Binance เปิดเผยว่าทางองค์กรนั้นมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการประสานงานกับ “พันธมิตรด้านความปลอดภัยทั้งหมดของเราในการดำเนินการในเชิงรุก” เพื่อกู้คืนเงินทุนที่หายไปเหล่านี้

Changpeng Zhao 1024x683.jpg
Changpeng Zhao หรือ CZ ซีอีโอของบริการการแลกเปลี่ยนชื่อดังอย่าง Binance

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
นักวิเคราะห์ดัง เผย! ความสำคัญของ Bitcoin ต่อตลาดคริปโต อาจลดลงในอนาคต
พบ ‘วาฬขนาดใหญ่’ โยกย้าย USDC กว่า 1.3 พันล้านดอลล์ เข้ากระดาน Coinbase
JPMorgan เชื่อ! แม้เศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดการชะลอตัว